ธนาคารหลักของยุโรปรวมตัวกันพัฒนา ‘สเตเบิลคอยน์ผูกกับยูโร’ คาดออกใช้ปลายปี 2026
ธนาคารชั้นนำ 9 แห่งในยุโรป รวมถึง ING แห่งเนเธอร์แลนด์ และยูนีเครดิต จากอิตาลี ประกาศความร่วมมือในการพัฒนา *สเตเบิลคอยน์ที่ผูกกับยูโร* อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 4 ภายใต้กรอบข้อบังคับตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลของสหภาพยุโรป หรือกฎหมาย *MiCA (Markets in Crypto-Assets)* โดยมีเป้าหมายจะออกเหรียญให้ใช้งานได้ภายในช่วงครึ่งหลังของปี 2026
ING ระบุว่า สเตเบิลคอยน์นี้มุ่งสร้างความไว้วางใจในระบบชำระเงินดิจิทัลของยุโรป พร้อมกับเป็นส่วนหนึ่งในการเสริมความแข็งแกร่งด้าน *อธิปไตยทางเศรษฐกิจดิจิทัลของยุโรป* ทั้งยังสะท้อนถึงแนวโน้มที่สหภาพยุโรปต้องการลดการพึ่งพาสกุลเงินดิจิทัลที่ผูกกับดอลลาร์ของสหรัฐ
การร่วมมือครั้งนี้ยังมีธนาคารอีกหลายแห่งเข้าร่วม เช่น ไกซาบังก์จากสเปน, ดานสเกแบงก์จากเดนมาร์ก, ไลฟ์ไฟเซนแบงก์จากออสเตรีย, เคบีซีจากเบลเยียม, เอสบีอีจากสวีเดน, เดคาแบงก์จากเยอรมนี และบังกาเซลลาจากอิตาลี โดยธนาคารทั้งหมดจะจัดตั้งบริษัทแห่งใหม่ในเนเธอร์แลนด์ เพื่อบริหารจัดการโครงการพัฒนาและดำเนินการออกเหรียญโดยเฉพาะ
ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นท่ามกลางกระแสความกังวลในยุโรปเกี่ยวกับการครอบงำของสเตเบิลคอยน์สัญชาติสหรัฐอย่าง *เทเธอร์(USDT)* และ *USDC* ซึ่งกระทบต่อเสถียรภาพทางการเงินและอธิปไตยในระบบชำระเงินของทวีปยุโรปเอง
ผู้เชี่ยวชาญมองว่า หากโครงการนี้ประสบความสำเร็จ นอกจากจะเป็นแรงผลักดันในการสร้าง *ระบบเศรษฐกิจดิจิทัลยูโร* ให้เติบโตแล้ว ยังอาจส่งผลให้ยุโรปมีบทบาทนำในโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินบนโลกคริปโตมากขึ้น โดยเฉพาะหากโมเดลภายใต้กฎหมาย MiCA สามารถกลายเป็น *มาตรฐานโลกด้านสเตเบิลคอยน์* ในอนาคต
‘ความคิดเห็น’: การเคลื่อนไหวครั้งนี้ไม่เพียงแค่สร้างทางเลือกในการชำระเงินดิจิทัลของยุโรป แต่ยังอาจส่งแรงสั่นสะเทือนต่อผู้เล่นรายใหญ่ที่ผูกกับดอลลาร์ได้อย่างมีนัยสำคัญ
ความคิดเห็น 0