เนเวอร์อาจพลิกโฉมวงการบล็อกเชนในประเทศ หากการเข้าซื้อกิจการแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตอย่างอัพบิทสำเร็จ ตามรายงานของ Taiger Research เมื่อวันที่ 24 การควบรวมกิจการระหว่างเนเวอร์และดูนามู ซึ่งเป็นผู้ให้บริการอัพบิท อาจก่อให้เกิด ‘ความพลิกผันครั้งใหญ่’ ในอุตสาหกรรมคริปโตของเกาหลีใต้
แรงกระเพื่อมนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อมีรายงานว่าเนเวอร์กำลังพิจารณานำดูนามูมาเป็นบริษัทย่อย 100% ภายใต้เนเวอร์ไฟแนนเชียล ภายในเดือนกันยายน 2025 โดยข้อตกลงนี้ถูกเปรียบว่าใหญ่ระดับเดียวกับที่กูเกิลเข้าซื้อโคอินเบส(Coinbase) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความทะเยอทะยานของเนเวอร์ในการขยายไปสู่ธุรกิจคริปโตในระดับลึก Taiger Research ชี้ว่าความร่วมมือระหว่างทั้งสองบริษัทนั้นไม่ใช่แค่ข่าวลือ เพราะมีการประสานงานในหลายมิติอยู่แล้วในปัจจุบัน
สิ่งที่น่าจับตามองที่สุดคือ ‘พลังซินเนอร์จี’ ที่อาจเกิดขึ้นจากการรวมตัวของทั้งสององค์กร เนเวอร์มีฐานผู้ใช้งานแอ็กทีฟกว่า 40 ล้านคน พร้อมระบบนิเวศที่แข็งแกร่งครอบคลุมตั้งแต่เสิร์ชเอ็นจิน ช้อปปิ้ง ไปจนถึงธุรกรรมการเงินออนไลน์ ขณะที่ดูนามูได้เดินหน้าไปไกลกว่าการเป็นแค่ตลาดซื้อขายคริปโต โดยได้เปิดตัวเลเยอร์สอง ‘GIWA Chain’ มุ่งเป็นบริษัทโครงสร้างพื้นฐานบล็อกเชน ความร่วมมือของสองบริษัทนี้จึงอาจก่อให้เกิดขีดความสามารถในการขยายธุรกิจที่ไม่เคยมีมาก่อน
จุดซินเนอร์จีแรกคือ การขยายฐานผู้ใช้ ตลาดคริปโตในปัจจุบันยังเผชิญปัญหาเรื่องความยุ่งยากในการสมัครใช้งานและการยืนยันตัวตน หากสามารถรวมระบบล็อกอินง่ายของเนเวอร์เข้ากับระบบ KYC ของอัพบิท จะช่วยลดข้อจำกัดเหล่านี้ลงได้อย่างมาก ปัจจุบัน อัพบิทมีผู้ใช้งานสะสมแล้วถึง 10 ล้านราย และหากดึงผู้ใช้จากเนเวอร์มาเสริมอีก 40 ล้านราย ก็มีโอกาสเพิ่มการเติบโตของฐานผู้ใช้แบบก้าวกระโดด
ซินเนอร์จีที่สองคือ ‘การออกสเตเบิลคอยน์’ เพื่อยกระดับระบบชำระเงิน โดยเนเวอร์มีบริการเนเวอร์เพย์และช้อปปิ้งที่ได้รับความนิยมอยู่แล้ว การผนึกเข้ากับเทคโนโลยีของดูนามูอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการนำสเตเบิลคอยน์มาใช้ในระบบจริง โดยเฉพาะบน GIWA Chain ที่ออกแบบให้รองรับสัญญาอัจฉริยะได้อย่างยืดหยุ่น ซึ่งจะทำให้ต้นทุนโดยรวมของระบบชำระเงินถูกลง ทั้งฝั่งผู้ใช้ ร้านค้า และแพลตฟอร์มเอง และยังทำให้การแปลงระหว่างสินทรัพย์คริปโตและเงินเฟียตเป็นไปอย่างไร้รอยต่อ
ด้านที่สามคือ การนำคอนเทนต์มาเชื่อมกับบล็อกเชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากเนเวอร์เว็บตูน ซึ่งมีลิขสิทธิ์ IP ระดับโลกอยู่ในมือ การเปลี่ยน IP ให้กลายเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลและเปิดใช้งานในรูปแบบโทเคน หรือให้แฟนคลับสามารถมีส่วนร่วมทางเศรษฐกิจกับคอนเทนต์ผ่านทางบล็อกเชน เป็นโมเดลธุรกิจใหม่ที่อาจเขย่าวงการสื่อและบันเทิงอย่างแท้จริง
Taiger Research ยังระบุด้วยว่า โมเดลธุรกิจใหม่ๆ จะไม่จำกัดเฉพาะในประเทศ เพราะเนเวอร์เคยเข้าซื้อแพลตฟอร์ม Poshmark ซึ่งเป็นตลาดมือสองในอเมริกาเหนือไว้แล้ว โดยอาจใช้สเตเบิลคอยน์สร้างระบบเอสโครว์เพื่อคุ้มครองทั้งผู้ซื้อผู้ขาย และยังมีความเป็นไปได้ในการนำเทคโนโลยีของดูนามูอย่าง ‘หุ้นนอกตลาด+เนเวอร์เพย์’ มาสร้างตลาดโทเคนสำหรับหุ้นนอกตลาด เพิ่มสภาพคล่องในการซื้อขายอีกด้วย
แม้เนเวอร์จะยังไม่ยืนยันว่ามีแผนจะซื้อดูนามูจริงหรือไม่ แต่จากทิศทางความเคลื่อนไหวในเชิงเทคโนโลยีและความร่วมมือล่าสุด การจับมือของทั้งสองบริษัทยังคงมี ‘แนวโน้มสูง’ ที่จะเกิดขึ้นในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง และถ้าเกิดขึ้นจริงก็จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของอุตสาหกรรมคริปโตในเกาหลีใต้ โดย Taiger Research มองว่าแผนเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความพยายามของเนเวอร์ในการสร้างมูลค่าใหม่ในเศรษฐกิจดิจิทัลที่ขับเคลื่อนด้วยบล็อกเชนอย่างมีวิสัยทัศน์
ความคิดเห็น 0