เครือข่ายพาย(Pi Network) ประกาศเมื่อวันที่ 25 (เวลาท้องถิ่น) ว่าจะ *ระงับการให้บริการหลักชั่วคราว* ซึ่งรวมถึง *การลงทะเบียนผู้ใช้ใหม่* และ *ระบบล็อกอินทั้งหมด* เพื่อดำเนินการอัปเกรดระบบตามแผน โดยไม่ส่งผลให้เกิดความตื่นตระหนกในชุมชน ผู้ใช้งานส่วนใหญ่ยังคงตอบรับอย่างสงบ
ทีมงานพายคอร์(Pi Core Team) เปิดเผยผ่านบัญชีทางการบน X (ชื่อเดิมคือทวิตเตอร์) ว่าการแก้ไขด้านเทคนิคในครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อยกระดับคุณภาพของบริการให้ดียิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้ใช้งานบางส่วนแสดงความเห็นว่า ปัญหาเรื่อง *การยืนยันตัวตน(KYC)* และ *ความคืบหน้าเรื่องการเข้าจดทะเบียนในตลาดซื้อขายหลักทรัพย์รายใหญ่* ควรได้รับการเร่งแก้ไขมากกว่า
ช่วงที่ผ่านมา ทีมงานได้เปิดตัวระบบ ‘Fast Track KYC’ ซึ่งเป็นระบบตรวจสอบข้อมูลผู้ใช้งานอัตโนมัติด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อเร่งกระบวนการเข้าสู่ระบบเมนเน็ต และเมื่อช่วงต้นเดือน ก็ได้ทำการอัปเกรดทดสอบโปรโตคอลเวอร์ชันใหม่ในชื่อ ‘Protocol v23’ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญต่อการเสริมสิทธิ์ของผู้ใช้และการปรับแต่งฟีเจอร์ใหม่
แม้มีการปรับปรุงระบบอย่างต่อเนื่อง แต่ความสนใจของนักลงทุนยังคงมุ่งไปที่ทิศทางราคาโทเคน PI โดยในขณะนี้ โทเคนดังกล่าวซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 0.27 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 375 บาท) ลดลงเกือบ 5% ภายในวันเดียว แม้รายงานก่อนหน้านี้มีการฟื้นตัวของราคา แต่ข่าวการหยุดให้บริการ ประกอบกับแผนการ *ปลดล็อกโทเคน* ครั้งใหญ่ในเดือนหน้า ทำให้เกิดแรงกดดันด้านราคาอย่างเห็นได้ชัด
โดยในวันที่ 1 ตุลาคมเพียงวันเดียว จะมีโทเคน PI จำนวน 13.2 ล้านเหรียญเข้าสู่ตลาด และตลอดทั้งเดือน คาดว่าจะมีจำนวนรวมทั้งสิ้น 137 ล้านเหรียญที่เข้าสู่ระบบ ซึ่งอาจเพิ่มแรงขายและสร้างความผันผวนในระยะสั้นได้
กระนั้นก็ตาม มีบางเสียงจากชุมชนที่ยังคงแสดงมุมมองในเชิงบวก โดยผู้ใช้ X รายหนึ่งชื่อ เนฮาล(Nehal) คาดการณ์ว่า โทเคน PI อาจแตะระดับราคา 1.50 ดอลลาร์ (ประมาณ 2,085 บาท) ภายในสิ้นปี 2025 แต่อย่างไรก็ตาม ความคิดเห็นส่วนใหญ่ย้ำว่า สิ่งสำคัญคือ *การเข้าตลาดซื้อขายอย่างเป็นทางการ* และ *การวางระบบเผาเหรียญ (Burn Mechanism)* เพื่อช่วยสร้างพื้นฐานให้มั่นคงยิ่งขึ้น
แม้เครือข่ายพายจะเติบโตอย่างรวดเร็วด้วยโมเดลการขุดผ่านมือถือ แต่ยังคงเผชิญความท้าทายในการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่เมนเน็ตอย่างสมบูรณ์และการเข้าจดทะเบียนในตลาด ทำให้การหยุดให้บริการครั้งนี้ถูกจับตามองว่า จะเป็นเพียงการสะดุดชั่วคราว หรือสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอนาคต ความเคลื่อนไหวของทั้งชุมชนและนักลงทุนจะเป็นตัวกำหนดทิศทางในช่วงเวลาต่อจากนี้
ความคิดเห็น 0