บิตคอยน์(BTC) ร่วงลงต่ำกว่าระดับ 110,000 ดอลลาร์ ทำให้เกิดการชำระบัญชีครั้งใหญ่ของนักลงทุนรายสำคัญในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา โดยข้อมูลจากตลาดอนุพันธ์พบว่ามีการชำระบัญชีตำแหน่ง Long มูลค่ารวมกว่า 1.1 พันล้านดอลลาร์ และ *ราว 75% ของมูลค่าดังกล่าวเกิดขึ้นในกลุ่มอัลท์คอยน์* โดยมีอีเธอเรียม(ETH) เป็นผู้ได้รับผลกระทบหลัก อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลายรายยังคงมองว่านี่อาจเป็น *“สถานการณ์ชั่วคราว”* ซึ่งไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงแนวโน้มในระยะยาว
อ้างอิงจากข้อมูลของแพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูลคริปโต Altcoin Vector ตลาดได้เปลี่ยนจากแนวโน้มที่ขับเคลื่อนโดยอีเธอเรียมและอัลท์คอยน์ขนาดกลาง-ย่อมที่ดำเนินมายาวนานถึง 79 วัน กลับเข้าสู่ช่วงที่บิตคอยน์เป็นผู้นำอีกครั้ง สำหรับอีเธอเรียมนั้น ราคาขยับจากระดับ 2,200 ดอลลาร์ ขึ้นไปแตะจุดสูงสุดที่ 4,900 ดอลลาร์ ก่อนจะย่อตัวลงต่ำกว่า 4,000 ดอลลาร์ในปัจจุบัน แต่มีการวิเคราะห์ว่า *นี่ไม่ใช่จุดสิ้นสุดของตลาดขาขึ้นในกลุ่มอัลท์คอยน์*
เทรดเดอร์ชื่อดังอย่าง Moustache แสดงความคิดเห็นว่า อัลท์คอยน์ส่วนใหญ่กำลังสร้างรูปแบบ ‘Cup and Handle’ ซึ่งถือเป็น *สัญญาณขาขึ้นแบบคลาสสิก* ที่มักนำไปสู่การพุ่งขึ้นของราคาหลังจากผ่านการปรับฐานมาอย่างยาวนาน รูปแบบดังกล่าวยังเป็นที่รู้จักในการบ่งบอกถึงการกลับตัวในระยะยาวของตลาด
ด้านบริษัทวิจัยเทคโนโลยีบล็อกเชนจากสวิตเซอร์แลนด์ Swissblock เผยว่า ดัชนีเชิงเทคนิค Aggregated Impulse ของบริษัทซึ่งวัดความผันผวนของราคาในสินทรัพย์คริปโต 350 รายการระบุว่า ตลาดอยู่ใน *“ช่วงรีเซต”* โดยในอดีตเมื่อมีสัญญาณลักษณะนี้ บิตคอยน์มักฟื้นตัว 20-30% ส่วนอัลท์คอยน์สามารถฟื้นตัวสูงถึง 50-150%
ล่าสุด ดัชนีชี้ว่า *22% ของอัลท์คอยน์ยังอยู่ในขาลง* ซึ่งอยู่ในระดับใกล้เคียงกับช่วงเริ่มต้นของตลาดกระทิงในอดีต Swissblock ระบุว่าขณะที่ตลาดเข้าสู่ช่วงฟื้นตัว อีเธอเรียมและอัลท์คอยน์มีแนวโน้มจะกลับมาเป็นผู้นำในตลาดอีกครั้ง
สำหรับนักลงทุนระยะยาว นักวิเคราะห์บางรายมองว่า *สถานการณ์ในตอนนี้เป็นจังหวะ “เข้าซื้อ”* มากกว่าการตระหนกขาย ปัจจัยอย่างรูปแบบ Cup and Handle ที่กำลังก่อตัว ความนิ่งของความเสี่ยง และพื้นฐานของโครงการที่ยังคงแข็งแรงแม้เกิดการชำระบัญชีขนาดใหญ่ ล้วนสนับสนุนแนวคิดที่ว่าการปรับฐานครั้งนี้อาจเป็นเพียง *ช่วงพักตัวก่อนการเติบโตอีกครั้ง* ของตลาดคริปโตในอนาคตอันใกล้
ความคิดเห็น 0