Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

บิตไวส์ชี้โซลานา(SOL) อาจแซงหน้าอีเธอเรียม(ETH) ในสนาม ETF ด้วยข้อได้เปรียบด้านระยะเวลาถอนเหรียญ

บิตไวส์ชี้โซลานา(SOL) อาจแซงหน้าอีเธอเรียม(ETH) ในสนาม ETF ด้วยข้อได้เปรียบด้านระยะเวลาถอนเหรียญ / Tokenpost

ในการประชุม Token2049 ที่จัดขึ้นที่สิงคโปร์ ฮันเตอร์ ฮอสลีย์(Hunter Horsley) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบิตไวส์(Bitwise) ได้ให้ความเห็นว่า โซลานา(SOL) อาจมีโอกาสแซงหน้าอีเธอเรียม(ETH) ในตลาดกองทุน ETF ที่เกี่ยวข้องกับคริปโต โดยชี้ให้เห็นถึงจุดแข็งด้าน ‘โครงสร้างที่เป็นมิตรกับนักลงทุน’ และย้ำว่า *ระยะเวลาการถอนเหรียญหลังจากออกจากการสเตก(unstaking) ที่สั้นกว่า* เป็นปัจจัยสำคัญที่เอื้อประโยชน์ให้กับโซลานาในบริบทของ ETF

ในการให้สัมภาษณ์กับแอนดรูว์ เฟนตัน(Andrew Fenton) บรรณาธิการจาก Cointelegraph ฮอสลีย์กล่าวว่า “ETF จำเป็นต้องสามารถจ่ายคืนสินทรัพย์ได้อย่างรวดเร็ว หากมีเวลาในการรอนานเกินไป อาจเกิดปัญหาใหญ่ได้” เขาเสริมว่า โครงข่ายของอีเธอเรียมในช่วงหลัง มีคิวรอถอนเหรียญจากการสเตกที่เพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่โซลานามักใช้เวลาถอนเหรียญสั้นกว่าอย่างชัดเจน

ระบบสเตกกิ้งคือการที่นักลงทุนล็อกโทเคนของตนไว้ในเครือข่ายเพื่อรับผลตอบแทน อย่างไรก็ดี โทเคนเหล่านี้ไม่สามารถถอนออกมาได้ทันที ต้องมีการ ‘ยกเลิกการสเตก’ และรอระยะเวลาหนึ่งก่อนจึงจะถอนออกมาได้ ระยะเวลาในการรอนี้จะแปรผันตามความหนาแน่นของเครือข่ายและความต้องการใช้งาน สำหรับอีเธอเรียม คิวรอถอนเหรียญปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 34 วัน โดยมีเหรียญรอถอนรวมกว่า 2 ล้าน ETH หรือราว 5.58 แสนล้านวอน ในทางตรงกันข้าม โซลานามีระยะเวลารอน้อยกว่ามาก ซึ่งฮอสลีย์มองว่าเป็นข้อได้เปรียบสำหรับการออก ETF

แม้ว่าผู้จัดการกองทุนอีเธอเรียม ETF จะพยายามแก้ปัญหานี้ด้วยกลไกทางการเงิน เช่นในกรณีของบิตไวส์ที่เปิดจำหน่ายสินทรัพย์ลงทุนอีเธอเรียมแบบสเตกในยุโรปโดยใช้ ‘โครงสร้างสินเชื่อเพื่อเพิ่มสภาพคล่อง’ แม้จะได้ผลในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังต้องแลกกับต้นทุนและข้อจำกัดด้านปริมาณ อีกตัวเลือกหนึ่งคือการใช้ ‘โทเคนสเตกที่มีสภาพคล่อง’ อย่าง stETH ของ Lido ที่ช่วยให้นักลงทุนยังได้รับผลตอบแทนจากการสเตกโดยไม่ต้องรอระยะเวลาในการถอน

ในช่วงที่ผ่านมา คิวรอเข้าสู่การสเตกในเครือข่ายอีเธอเรียมก็พุ่งแตะระดับสูงสุดนับจากต้นปี 2023 ปัจจุบันมี ETH รอเข้าสู่การสเตกมากกว่า 861,000 เหรียญ คิดเป็นมูลค่าราว 2.4 แสนล้านวอน และยังมีอีกกว่า 201,984 เหรียญ (มูลค่าราว 5.63 หมื่นล้านวอน) ที่กำลังอยู่ในคิวเฉลี่ยนานประมาณ 3 วัน ส่วนคิวถอนเหรียญยังคงยาวกว่า

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ(SEC) เตรียมออกคำตัดสินเกี่ยวกับคำขออนุมัติกองทุน ETF ที่เกี่ยวข้องกับโซลานาและอีเธอเรียมภายในเดือนนี้ โดยบางคำร้องมีฟีเจอร์สเตกกิ้งรวมอยู่ด้วย ทำให้ตลาดจับตามองกันอย่างใกล้ชิด บริษัทจัดการสินทรัพย์รายใหญ่ ทั้งบิตไวส์, ฟิเดลิตี้, แฟรงคลินเทมเพิลตัน, เกรย์สเกล อินเวสต์เมนท์, คอยน์แชร์ส, คานารี แคปิทัล และแวนเอ็ค ได้ยื่น ‘เอกสาร S-1 ฉบับอัปเดต’ เพื่อขออนุมัติกองทุน ETF ต่อ SEC แล้ว

*คำถามสำคัญในเกมของ ETF ยุคใหม่คือโซลานาจะใช้จุดแข็งด้านสภาพคล่องมาชิงพื้นที่จากอีเธอเรียมได้อย่างไร* และคำตอบนี้อาจพลิกทิศทางของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลในอนาคตก็เป็นได้

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1