บีเอ็นบี(BNB) จะสามารถแซงหน้าริปเปิล(XRP) ได้หรือไม่? ขณะนี้เป็นคำถามที่กำลังได้รับความสนใจในตลาดคริปโต หลังจากที่ปัญญาประดิษฐ์(AI) ได้ออกมาวิเคราะห์แนวโน้มของทั้งสองสินทรัพย์อย่างน่าสนใจ โดยแม้ช่องว่างของมูลค่าตลาดระหว่างทั้งคู่จะยังห่างกันราว 20,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 722,000 ล้านบาท แต่สถานการณ์ปัจจุบันที่บีเอ็นบีพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ริปเปิลมีแนวโน้มทรงตัว อาจทำให้ลำดับของทั้งสองเปลี่ยนแปลงได้ในไม่ช้า
เมื่อไม่นานมานี้ ราคาของบีเอ็นบีพุ่งขึ้นทะลุระดับ 1,190 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.65 ล้านบาท) ซึ่งเป็นจุดสูงสุดใหม่ ขณะที่มูลค่าตลาดของสินทรัพย์เข้าใกล้ระดับ 160,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.22 ล้านล้านบาท) ปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญมาจากการเติบโตของแพลตฟอร์มไบแนนซ์ระดับโลก, การขยายตัวอย่างต่อเนื่องของ ‘BNBเชน’ และระบบการเผาเหรียญที่เกิดขึ้นเป็นประจำ ความเคลื่อนไหวในช่วงเดือนที่ผ่านมา บีเอ็นบีพุ่งขึ้นกว่า 30% ขณะที่ริปเปิลปรับตัวขึ้นเพียง 8.5% เท่านั้น
จากข้อมูลของแชตจีพีที(ChatGPT) ซึ่งเป็น AI แชตบอตชื่อดัง วิเคราะห์ว่า *บีเอ็นบีมีโอกาสสูงที่จะโค่นตำแหน่งของริปเปิลได้ภายในปีนี้* หากแนวโน้มราคายังคงดำเนินเช่นปัจจุบัน พร้อมเสริมว่า “จากปัจจัยพื้นฐานและทิศทางตลาดในขณะนี้ หากราคาบีเอ็นบีสามารถปรับขึ้นอีก 20-25% และราคาริปเปิลไม่ปรับตัวขึ้นมาก ก็มีโอกาสที่บีเอ็นบีจะทำได้ภายในช่วงเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายน”
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยสำคัญที่อาจช่วยให้ริปเปิลกลับมาเป็นผู้นำได้ คือความเป็นไปได้ในการได้รับการอนุมัติ ‘ETF ซึ่งอ้างอิงกับ XRP แบบสปอต’ จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ(SEC) ซึ่ง SEC กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณา ETF หลายรายการ และคาดว่าจะมีคำตัดสินในเดือนนี้หรือต้นเดือนหน้า ความคาดหวังนี้อาจกระตุ้นราคาของริปเปิลได้อย่างมีนัยสำคัญ
แชตจีพีทีให้ *ความคิดเห็น* ว่า “หาก ETF สำหรับริปเปิลได้รับไฟเขียว จะกลายเป็นปัจจัยสนับสนุนที่ทรงพลัง และอาจทำให้แนวโน้มที่บีเอ็นบีจะขึ้นแซงถูกล้มล้าง” ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลจาก Polymarket แพลตฟอร์มพยากรณ์บนบล็อกเชน ที่ระบุว่าความเป็นไปได้ที่ ETF ดังกล่าวจะได้รับอนุมัติภายในปีนี้สูงเกือบ 100% ซึ่งสะท้อนถึง ‘ความคาดหวังที่ยังคงอยู่ในระบบนิเวศของ XRP’
ทั้งสองเหรียญมีฐานพัฒนาต่างกันอย่างชัดเจน โดยบีเอ็นบีใช้ความได้เปรียบจากการเชื่อมโยงกับแพลตฟอร์มเทรดและนโยบายการเผาเหรียญเป็นเครื่องจักรผลักดัน ขณะที่ริปเปิลมีเป้าหมายในเชิงการใช้งานจริงที่ชัดเจนในด้านโอนเงินระหว่างประเทศ และอาจได้รับประโยชน์จากการกำกับดูแลที่ชัดเจนขึ้นในอนาคต ในท้ายที่สุด ‘ใครจะสามารถสร้างความเชื่อมั่นและดึงเม็ดเงินจากตลาดได้มากกว่า’ จะกลายเป็นปัจจัยชี้ขาดว่าใครคือผู้ชนะตัวจริงในสนามคริปโตครั้งนี้
ความคิดเห็น 0