สหรัฐฯ เตรียมเปิดนโยบายใหม่ด้านคริปโตอย่างเป็นทางการในรายงาน "นโยบายสินทรัพย์ดิจิทัล" ที่มีกำหนดประกาศในวันที่ 30 กรกฎาคม 2025 ซึ่งคาดว่าจะกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของภูมิทัศน์ด้านคริปโตของประเทศ รายงานฉบับนี้ถือเป็นผลลัพธ์จากความร่วมมือของหน่วยงานกำกับดูแลหลักอย่างกระทรวงการคลัง, กระทรวงยุติธรรม, คณะกรรมการกำกับซื้อขายล่วงหน้า(CFTC), คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์(SEC) และกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งมุ่งแสดงวิสัยทัศน์ใหม่ของรัฐบาลกลางต่อการเป็นผู้นำระดับโลกด้านเทคโนโลยีการเงินดิจิทัล
ตามการวิเคราะห์ของโคอินอีซี่(CoinEasy) ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์โทเคนโพสต์(TokenPost) รายงานฉบับนี้เป็นมากกว่าการวางนโยบายเบื้องต้น แต่เป็น ‘โร้ดแมปเชิงปฏิบัติ’ ซึ่งผสานทั้งการปฏิรูปกฎระเบียบและกลยุทธ์ส่งเสริมอุตสาหกรรมคริปโตอย่างครบถ้วน จุดเด่นของรายงานอยู่ที่ ‘ห้าแนวทางหลัก’ ที่กำหนดไว้ชัดเจน
แนวทางแรกคือการ ‘คุ้มครองเสรีภาพในการเข้าถึงบล็อกเชนสาธารณะ’ เพื่อให้ทั้งบุคคลธรรมดาและองค์กรสามารถใช้เครือข่ายเปิดได้อย่างอิสระ ได้รับความคุ้มครองทางกฎหมายในแง่การเปิดกว้างและความเป็น ‘ไร้ศูนย์กลาง’ ของเทคโนโลยี
แนวทางที่สองมุ่งเน้นที่ ‘เสรีภาพในการพัฒนาออฟเชนและซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ส’ รวมถึงการออกเหรียญ การซื้อขาย และการดูแลสินทรัพย์ในรูปแบบ *เซลฟ์คัสโตดี* โดยรัฐบาลจะไม่แทรกแซงหรือออกข้อจำกัด
นอกจากนี้ รายงานยังยืนยันว่ารัฐบาลสหรัฐฯ จะ *สนับสนุนการพัฒนาเหรียญเสถียรที่อิงกับดอลลาร์* อย่างเป็นทางการ ถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการแข่งขันกับสกุลเงินดิจิทัลจากประเทศอื่น เพื่อรักษาฐานะ ‘เงินสำรองโลก’ ของดอลลาร์ในระดับสากล
หลักการข้อที่สี่ ระบุว่า ทุกภาคส่วนที่ปฏิบัติตามกฎหมายจะได้รับ ‘สิทธิเข้าถึงบริการการเงินแบบดั้งเดิม’ อย่างเท่าเทียม ถือเป็นการสนับสนุนสภาพคล่องและขยายการเข้าถึงทางการเงินให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น
และหลักการที่ห้า คือการปรับปรุงกฎเกณฑ์ภายใต้แนวคิด ‘ความเป็นกลางทางเทคโนโลยี’ โดยรัฐบาลจะออกกรอบกำกับดูแลที่ชัดเจนและเปิดกว้างสำหรับเทคโนโลยีบล็อกเชน สัญญาอัจฉริยะ และแพลตฟอร์มไร้ศูนย์กลาง เพื่อลดความไม่แน่นอนด้านกฎหมายที่ผู้ประกอบการเผชิญมาตลอด
รายงานฉบับนี้ยังถือว่าเป็นหนึ่งในนโยบายหลักที่ขับเคลื่อนผ่าน *คำสั่งฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีทรัมป์* ภายในเวลาเพียง 3 วันหลังเข้ารับตำแหน่ง แสดงถึงความตั้งใจชัดเจนในการวางสหรัฐฯ เป็นผู้นำด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีบล็อกเชนในระดับโลก
หากนโยบายเหล่านี้นำไปใช้จริง ก็มีความเป็นไปได้สูงว่า *นักพัฒนาและบริษัทบล็อกเชนจากทั่วโลกจะหลั่งไหลกลับเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ* รวมถึงผู้ใช้งานจะได้รับ ‘สิทธิความเป็นเจ้าของสินทรัพย์’ และเสรีภาพในการพัฒนาอย่างปลอดภัย เชื่อว่าจะช่วยเร่งการเติบโตของระบบเศรษฐกิจคริปโตในประเทศอย่างเห็นได้ชัด
วันเปิดเผยเอกสารฉบับเต็มในวันที่ 30 กรกฎาคมนี้ จึงอาจเป็น ‘จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ’ ของนโยบายคริปโตสหรัฐฯ ที่โลกจับตามอง โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศ G7 ซึ่งอาจทำให้สหรัฐฯ กลายเป็น *ประเทศแรกที่ออกกฎหมายสนับสนุนเทคโนโลยีบล็อกเชนอย่างเป็นรูปธรรม* ความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญมองว่า โลกทั้งใบจะหันสายตาสู่กรุงวอชิงตันในวันนั้นอย่างแน่นอน
ความคิดเห็น 0