ปีเตอร์ ชิฟ(Peter Schiff) นักลงทุนอาวุโสผู้สนับสนุนระบบอิงทองคำ ออกมาแสดงความเห็นอีกครั้งเกี่ยวกับ *บิตคอยน์(BTC)* และสินทรัพย์ดิจิทัล โดยระบุว่าการฟื้นตัวของตลาดในขณะนี้เป็นเพียง “*แรงดีดกลับชั่วคราวภายใต้ตลาดขาลง*” พร้อมเตือนว่าราคาของคริปโตเคอร์เรนซีอาจร่วงลงอย่างรุนแรงระดับ ‘รูกรักพูล’ (Rug Pull) ในไม่ช้า ท่ามกลางกระแสขาขึ้นของทองคำ
ผ่านโพสต์ในโซเชียลมีเดีย ชิฟชี้ว่า แม้ *บิตคอยน์* จะทำจุดสูงสุดใหม่ แต่เมื่อเทียบกับราคาทองคำก็ยังอยู่ในทิศทางขาลง จากข้อมูลเมื่อวันที่ 7 (เวลาท้องถิ่น) ตลาดคริปโตมีมูลค่าการเคลื่อนไหวบนเชนมากถึง 3.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 5.4 หมื่นล้านบาท) ในวันเดียว ซึ่งการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่เช่นนี้ ประเมินว่าเกิดจากแรงขายในราคาต่ำ ส่งผลให้ความผันผวนของตลาดเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ *บิตคอยน์* เพิ่งทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ระดับ 126,080 ดอลลาร์ (ประมาณ 17.5 ล้านบาท) เมื่อสัปดาห์ก่อน ก่อนจะร่วงมายืนที่ระดับ 120,702 ดอลลาร์ (ประมาณ 17.1 ล้านบาท) ในระหว่างวัน คิดเป็นการลดลงราว 3% จากจุดสูงสุด
ชิฟยังเน้นถึง “*ความแตกต่างที่เด็ดขาดระหว่างทองคำกับบิตคอยน์*” โดยให้เหตุผลว่าทองคำได้ไต่ระดับทำจุดสูงสุดตลอดกาลใหม่ที่บริเวณ 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ราว 5.5 ล้านบาท) และเมื่อตั้งแต่ต้นปี ทองคำให้ผลตอบแทนแซงหน้าบิตคอยน์ไปถึง 17 จุดเปอร์เซ็นต์ ท่ามกลางแรงขับเคลื่อนจากภาวะเงินเฟ้อที่ยืดเยื้อ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนตัว และความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์
นักลงทุนรายนี้ยังวิจารณ์นโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ระบุว่าราคาทองคำที่พุ่งขึ้นแม้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยสะท้อนว่า “เฟดกำลังดำเนินนโยบายผิดทิศทาง” พร้อมเรียกร้องให้เฟดจัดประชุมฉุกเฉินและ *ขึ้นดอกเบี้ยโดยทันทีพร้อมส่งสัญญาณชัดเจนว่าจะมีการขึ้นต่อเนื่อง*
เขาทิ้งท้ายว่าด้วยราคาทองคำที่ทะลุระดับ 4,000 ดอลลาร์ มีแนวโน้มว่าการเทขาย *บิตคอยน์* จะรุนแรงขึ้น และเหรียญคริปโตอื่นๆ รวมถึง *อัลต์คอยน์ทั้งหมดน่าจะได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน*
ในช่วงที่ทั้งทองคำและ *บิตคอยน์* ถูกจับตามองในฐานะสินทรัพย์ที่ช่วยป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ การถกเถียงถึงบทบาทความเป็น ‘สินทรัพย์ปลอดภัย’ ระหว่างทั้งสองจึงทวีความเข้มข้น ซึ่งความเห็นของชิฟอาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของกลุ่มนักลงทุนในตลาดต่อไป *ความคิดเห็น*
ความคิดเห็น 0