ราคาของบิตคอยน์(BTC)ปรับตัวลดลง 4.2% ภายในวันเดียว โดยตกลงมาอยู่ที่ 126,219 ดอลลาร์ หรือประมาณ 17.5 ล้านบาท ซึ่งเป็นการปรับฐานหลังจากที่ราคาทะยานขึ้นถึง 12.5% ในสัปดาห์ก่อนหน้า นักลงทุนหลายรายมองว่านี่เป็นการพักตัวที่คาดการณ์ได้ อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความผันผวนทางเศรษฐกิจโลก ตัวชี้วัดหลายด้านยังคงสนับสนุน *แนวโน้มขาขึ้นของราคาบิตคอยน์* อย่างมั่นคง
สัญญาณที่ชัดเจนคือ เงินลงทุนจากสถาบันใน *กองทุน ETF บิตคอยน์แบบสปอต* ที่มีการไหลเข้ามากถึง 3.5 พันล้านดอลลาร์ (ราว 48,650 ล้านบาท) ภายในสัปดาห์เดียว แสดงให้เห็นว่า *ความต้องการจากนักลงทุนสถาบันกำลังพุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง* ประกอบกับปริมาณบิตคอยน์ที่เก็บไว้ในกระดานแลกเปลี่ยนขนาดใหญ่กำลังลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นแรงหนุนด้านอุปทานที่อาจผลักดันราคาให้เพิ่มขึ้น
ในส่วนของตลาดฟิวเจอร์ส ตัวเลข *ยอดสัญญาคงค้าง (Open Interest)* ยังคงแข็งแกร่ง โดยสะท้อนภาพการลงทุนในระยะกลางถึงยาวมากกว่าทำเก็งกำไรระยะสั้น นักวิเคราะห์ในแวดวงระบุว่ามีโอกาสที่บิตคอยน์จะไปทดสอบระดับใหม่ที่ *150,000 ดอลลาร์ต่อ 1 บิตคอยน์* (ประมาณ 20.85 ล้านบาท) ในไม่ช้า เนื่องจากนักลงทุนเริ่มมองว่าบิตคอยน์กำลังยกระดับจากสินทรัพย์เก็งกำไรไปสู่เครื่องมือเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากเศรษฐกิจมหภาค
อีกปัจจัยที่น่าสนใจคือ จุดยืนล่าสุดของ *ประธานาธิบดีทรัมป์* ที่แสดงจุดยืนสนับสนุนคริปโตเคอร์เรนซีอย่างเป็นทางการ นับเป็นสัญญาณเชิงบวกต่อการใช้สินทรัพย์ดิจิทัลในภาคราชการและอาจกระตุ้น *การเติบโตของความต้องการในระดับสถาบัน* ได้มากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงก่อนการเลือกตั้งสหรัฐฯ ที่นโยบายคริปโตของผู้สมัครมีแนวโน้มจะกลายเป็นประเด็นสำคัญที่ส่งผลต่อความมั่นใจของนักลงทุน
แม้ราคาจะมีการปรับฐานระยะสั้น แต่เมื่อพิจารณาจากข้อมูลในตลาดอนุพันธ์ การเคลื่อนไหวของเงินทุนจากสถาบัน และปริมาณเหรียญในกระดานแลกเปลี่ยนที่ลดลง ล้วนสะท้อนว่า *แนวโน้มตลาดบิตคอยน์ยังคงแข็งแกร่ง* ทั้งนี้ ทิศทางในอนาคตอาจได้รับแรงกระตุ้นต่อเนื่องจากเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจมหภาคและนโยบายของทรัมป์ที่เดินหน้าเปิดรับคริปโตมากยิ่งขึ้น
ความคิดเห็น 0