ริปเปิล(XRP) เผชิญแรงขายระยะสั้นหลังราคาทะลุระดับแนวต้านสำคัญที่ 3 ดอลลาร์ (ประมาณ 4,170 บาท) เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม โดยล่าสุดปรับตัวลงแตะ 2.84 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,948 บาท) ทำให้เข้าสู่ภาวะพักฐานชั่วคราว และที่สำคัญคือราคาปิดรายวันต่ำกว่าระดับแนวรับทางจิตวิทยา รวมถึงหลุดเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โพเนนเชียล (EMA) ระยะ 50 วัน ซึ่งก่อให้เกิดความกังวลว่าตลาดอาจเข้าสู่ภาวะอ่อนแรงในระยะสั้น
อย่างไรก็ตาม *ความเห็น* จากนักวิเคราะห์บางรายระบุว่า กระแสนี้อาจเป็นเพียงการปรับฐานระยะสั้น โดยมุมมองเชิงโครงสร้างและข้อมูลออนเชนยังแสดงให้เห็นถึงแรงสนับสนุนสำคัญที่อาจช่วยให้ตลาดฟื้นตัวในระยะกลางถึงระยะยาวได้
ปัจจัยสนับสนุนหลักยังคงอยู่ที่ความหวังเกี่ยวกับการ *อนุมัติ ETF ที่อิงกับ XRP* ซึ่งยังคงมีน้ำหนักต่อตลาด นักลงทุนจำนวนไม่น้อยเริ่มกลับมาให้ความสนใจอีกครั้ง เนื่องจากการพิจารณาจากหน่วยงานกำกับของสหรัฐฯ มีแนวโน้มจะเปิดเผยในเร็ววันนี้ ซึ่งหากได้รับอนุมัติ อาจส่งผลให้ XRP มีโอกาสทะลุผ่านแนวต้านทางเทคนิคสำคัญ
ที่น่าสนใจคือพฤติกรรมของนักลงทุนที่แบ่งแยกอย่างชัดเจน โดยกลุ่มนักลงทุนรายย่อยยังรอดูสถานการณ์ ขณะที่ *บัญชีวาฬ* กลับเดินเกมเชิงรุก ด้วยการเพิ่มการสะสม XRP อย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงเดือนที่ผ่านมา นักลงทุนกลุ่มนี้ได้เข้าซื้อ XRP เพิ่มกว่า 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.52 ล้านล้านบาท) สะท้อนความเชื่อมั่นในแนวโน้มขาขึ้นระยะยาว แม้ภาพเทคนิคระยะสั้นจะไม่สดใสนัก
ด้านการวิเคราะห์ทางเทคนิค ระบุว่า หาก XRP สามารถทะลุระดับ 3.30 ดอลลาร์ (ประมาณ 4,587 บาท) ได้ อาจนำไปสู่การฟอร์มฐานขาขึ้นบนกราฟรายวันและกราฟรายเดือน พร้อมเปิดโอกาสให้เกิดแรงขับเคลื่อนราคาต่อเนื่องซึ่งอาจสูงถึง *85%* ในระยะถัดไป โดยมีบางกรณีคาดการณ์การขยับขึ้นในช่วง *60–85%* หากสามารถยืนเหนือระดับแนวต้านได้อย่างมั่นคง
กล่าวโดยสรุป ทิศทางของริปเปิล(XRP) ในระยะต่อไปจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลักอย่างการอนุมัติ ETF โดยหน่วยงานกำกับ, ความเคลื่อนไหวของบัญชีวาฬ และความสามารถในการผ่านแนวต้านด้านจิตวิทยาที่สำคัญ แม้จะมีแรงกดดันช่วงสั้น แต่ข้อมูลหลายด้านยังคงบ่งชี้ว่า XRP มีโอกาสกลับเข้าสู่ทิศทางขาขึ้นอีกครั้งในอนาคตอันใกล้
ความคิดเห็น 0