ไบรอัน อาร์มสตรอง(Brain Armstrong) ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของคอยน์เบส(COIN) เปิดเผยมุมมองต่อ *มิมคอยน์* ว่า ไม่ควรถูกมองเพียงแค่เป็นสินทรัพย์เพื่อการเก็งกำไร แต่เป็น ‘สัญญาณทางวัฒนธรรม’ และ ‘ดัชนีชี้วัดความเหมาะสมของตลาดในระยะแรกเริ่ม’ ความคิดเห็นนี้ถูกเปิดเผยหลังจากที่คอยน์เบสรวมบริการแลกเปลี่ยนกระจายศูนย์เข้ากับแอปหลักสำหรับผู้ใช้ในสหรัฐฯ และขึ้นทะเบียนสินทรัพย์ทั้งหมดจากบล็อกเชน *เบส(Base)* บนแพลตฟอร์มของตนเป็นที่เรียบร้อย
ภายใต้การเปลี่ยนแปลงใหม่นี้ ผู้ใช้สามารถซื้อขายไม่เพียงแต่คริปโตในตลาดศูนย์กลางอย่างเดิมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสินทรัพย์บน *เบสเชน* เช่น *มิมคอยน์* ภายในแอปพลิเคชันได้โดยตรง เจสซี พอลแลค(Jesse Pollak) หัวหน้าทีมพัฒนาเปิดเผยว่า “การเข้าถึงสินทรัพย์ในระบบนิเวศของเราเร็วขึ้นและง่ายขึ้นอย่างชัดเจน”
อาร์มสตรองได้กล่าวบนโซเชียลมีเดียว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวไม่ใช่เพียงการขยายตัวด้านเทคนิค แต่เป็นหนึ่งในกลยุทธ์เพื่อผลักดัน ‘การเติบโตของระบบนิเวศเบส (Base)’ และ ‘การกระตุ้นการใช้คริปโตโดยชุมชน’ ก่อนหน้านี้ เขาเคยกล่าวว่า แม้มิมคอยน์ดูเป็นสินทรัพย์ที่ใช้เก็งกำไรในระยะสั้น แต่มันมีบทบาทในการส่งเสริมปริมาณธุรกรรมบนเชน (on-chain activity) และดึงดูดกลุ่มผู้ใช้ใหม่ผ่านแพลตฟอร์มโซเชียล
จากข้อมูลของ CoinMarketCap ปัจจุบันมูลค่ารวมของ *มิมคอยน์* ทั้งหมดทะลุ 70,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 97.3 ล้านล้านวอน แม้จะยังห่างจากมูลค่าของบิตคอยน์(BTC) หรืออีเธอเรียม(ETH) แต่ก็ถือเป็นสัดส่วนที่ไม่ควรมองข้ามเมื่อเทียบกับอัลต์คอยน์รายใหญ่อื่น ๆ *ดอจ์คอยน์(DOGE)* และ *ชิบะอินุ(SHIB)* ยังคงครองอันดับต้น ๆ ของเหรียญที่มีปริมาณการซื้อขายสูงสุดทั่วโลก โดยเป็นเครื่องยืนยันถึงความสำคัญทางตลาดของกลุ่มเหรียญกลุ่มนี้
การเปิดกว้างในครั้งนี้ของคอยน์เบสสะท้อนถึงความพยายามที่จะก้าวข้ามบทบาทของการเป็นเพียงกระดานแลกเปลี่ยน ไปสู่การเป็นผู้นำในตลาดดิจิทัลที่ผสานระหว่าง *การเงินกระจายศูนย์ (DeFi)* และสินทรัพย์วัฒนธรรม อาร์มสตรองระบุว่า “ความนิยมและสภาพคล่องของมิมคอยน์กำลังก่อให้เกิดโอกาสสร้างรายได้ที่แท้จริง แทนที่จะเป็นเพียงกระแสแฟชั่นชั่วคราว”
แม้ว่ามุมมองเชิงลบที่ว่า *มิมคอยน์* เป็นสินทรัพย์เก็งกำไรยังคงมีอยู่ในตลาด แต่ก็มีเสียงจากผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมที่เสนอให้มองมันในฐานะแพลตฟอร์มสำหรับทดลองโครงสร้างพื้นฐานของบล็อกเชนและสำรวจปฏิกิริยาจากผู้ใช้ การตัดสินใจของคอยน์เบสครั้งนี้จึงถูกวิเคราะห์ว่าเป็นความเคลื่อนไหวที่ *นักลงทุนเชิงข้อมูล* ควรจับตา
การเปลี่ยนแปลงวิธีคิดต่อมิมคอยน์กำลังสะท้อนภาพใหญ่ถึงบทบาทและความรับผิดชอบของกระดานเทรดหลักที่อยู่ตรงจุดตัดระหว่าง 'วัฒนธรรม' และ 'การเงิน' คอยน์เบสกำลังใช้โอกาสนี้เพื่อลองทดสอบทั้งความยืดหยุ่นและความเปิดกว้างในการรับมือกับตลาดเกิดใหม่อย่างกล้าหาญ
ความคิดเห็น 0