โรเจอร์ เวอร์(Roger Ver) ซึ่งได้รับฉายาว่า ‘พระเยซูแห่งบิตคอยน์(BTC)’ และเป็นหนึ่งในผู้เผยแพร่แนวคิดบิตคอยน์ยุคแรก อาจรอดพ้นโทษจำคุกจากข้อหาหลีกเลี่ยงภาษี หลังมีรายงานว่าเขากำลังเจรจากับกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ เพื่อทำข้อตกลงชำระภาษีย้อนหลังเป็นมูลค่าราว 48 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 668 ล้านบาท) นำเสนอโดย *The New York Times* เมื่อวันที่ 24 (เวลาท้องถิ่น)
ตามรายงาน โรเจอร์ เวอร์ เคยครอบครองบิตคอยน์กว่า 131,000 เหรียญ ณ ปี 2014 โดยถือผ่านบริษัทเมโมรีดีลเลอร์ส(MemoryDealers) และอาจิลสตาร์(Agilestar) กระทรวงยุติธรรมชี้ว่า เขาตัดสินใจสละสัญชาติอเมริกันและย้ายไปถือสัญชาติเซนต์คิตส์และเนวิส ซึ่งเป็นประเทศปลอดภาษี เพื่อหลีกเลี่ยงการจ่ายภาษีจากสินทรัพย์บิตคอยน์ดังกล่าว ทั้งนี้ เวอร์ถูกตั้งข้อหาเกี่ยวกับการฉ้อโกงทางไปรษณีย์และหลีกเลี่ยงภาษีในเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยสหรัฐได้ยื่นขอส่งตัวเขาจากสเปน
ในอีกมุมหนึ่ง เวอร์ยังมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับบุคคลในฝ่ายของประธานาธิบดีทรัมป์ โดยในทีมทนายของเขามีผู้ที่เคยร่วมงานกับทรัมป์ รวมถึงเขาเคยจ่ายค่าที่ปรึกษาราว 600,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 83.4 ล้านบาท) ให้แก่ โรเจอร์ สโตน นักล็อบบี้ชื่อดัง เพื่อผลักดันการแก้กฎหมายภาษี ความเคลื่อนไหวนี้ถูกมองว่าอาจเอื้อประโยชน์ในการเจรจาข้อตกลงกับภาครัฐ โดยเฉพาะในยุคที่ทรัมป์มีท่าทีสนับสนุนอุตสาหกรรมคริปโต *ความคิดเห็น* อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงดังกล่าวยังไม่ได้รับการบันทึกอย่างเป็นทางการในเอกสารศาลกลางรัฐแคลิฟอร์เนีย
ในอีกข่าวที่น่าจับตา กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของลักเซมเบิร์กได้เข้าลงทุนในบิตคอยน์ ETF เป็นครั้งแรก โดยเริ่มต้นด้วยการจัดสรร 1% ของพอร์ตลงทุนไปยังกองทุน ETF ที่เกี่ยวข้องกับบิตคอยน์ บ็อบ คีฟเฟอร์(Bob Kieffer) ผู้อำนวยการกระทรวงการคลังของลักเซมเบิร์กเปิดเผยผ่าน LinkedIn ส่วนตัว สอดคล้องกับคำกล่าวของรัฐมนตรีคลัง กิล โรธ(Gilles Roth) ระหว่างการแถลงงบประมาณประจำปี 2026 ซึ่งนับเป็นหนึ่งในกรณีตัวอย่างแรกของประเทศในยุโรปที่ผลักดันสินทรัพย์ดิจิทัลในระดับกองทุนของรัฐ
ทั้งนี้ การเคลื่อนไหวของเวอร์ การลงทุนจากภาครัฐยุโรป และท่าทีทางการเมืองระดับนานาชาติ ต่างชี้ให้เห็นถึงพลวัตที่ซับซ้อนระหว่าง ‘การเงินแบบดั้งเดิม’ และ ‘คริปโต’ ซึ่งอาจกลายเป็น *ตัวแปรสำคัญ* ที่กำหนดทิศทางของตลาดบิตคอยน์ในระยะต่อไป
ความคิดเห็น 0