มาเรีย โครีนา มาชาโด(María Corina Machado) ผู้นำฝ่ายค้านคนสำคัญของเวเนซุเอลา กลายเป็น *ผู้สนับสนุนบิตคอยน์(BTC)* รายแรกที่ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ สะท้อนให้เห็นว่า *สกุลเงินดิจิทัล* กำลังก้าวขึ้นมาเป็น *สัญลักษณ์แห่งการปกป้องสิทธิมนุษยชน* ในระดับโลก ทั้งยังเป็นกรณีศึกษาประวัติศาสตร์ที่แสดงให้เห็นว่า *บิตคอยน์* สามารถเป็นเครื่องมือที่ใช้จริงในการต่อสู้เพื่อ *ประชาธิปไตยและเสรีภาพทางเศรษฐกิจ* ของประเทศหนึ่งได้
มาชาโดมีบทบาทโดดเด่นในการยืนหยัดต่อสู้กับรัฐบาลเผด็จการของเวเนซุเอลา ท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อรุนแรงและวิกฤตเศรษฐกิจ เธอสนับสนุนให้ประชาชนใช้ *บิตคอยน์* เพื่อปกป้องทรัพย์สินและรับมือกับข้อจำกัดด้านการเข้าถึงธนาคาร โดยใช้ *บิตคอยน์* เป็นช่องทางหลักในการระดมทุนซึ่งช่วยให้ภารกิจทางการเมืองของเธอดำเนินต่อไปได้ เธอกล่าวว่า "*บิตคอยน์ไม่ใช่เพียงสินทรัพย์ลงทุน แต่เป็นเสมือน 'เชือกชีวิต' ของประชาชน*" พร้อมทั้งเปิดเผยว่ามีแผนนำ *บิตคอยน์* มาจัดตั้งเป็นเงินทุนสำรองในกระบวนการฟื้นฟูประเทศในอนาคต
ข่าวการคว้ารางวัลโนเบลของมาชาโดยังสร้างแรงกระเพื่อมต่อวงการคริปโต โดยเจฟฟ์ พาร์ค(Jeff Park) ที่ปรึกษาการลงทุนของบริษัทจัดการสินทรัพย์ดิจิทัล Bitwise แสดงความคิดเห็นว่า "*บิตคอยน์คือสิทธิมนุษยชน* และมีบทบาทสำคัญในการปกป้องเสรีภาพทางเศรษฐกิจและสิทธิพื้นฐานของประชาชน" เขาชี้ให้เห็นว่า ความสามารถของ *บิตคอยน์* ในการหลีกเลี่ยงการควบคุมจากรัฐคือหัวใจสำคัญของศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
ในช่วงที่หลายประเทศต้องเผชิญกับความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจ *บิตคอยน์* กลายเป็นเครื่องมือทางเลือกที่ได้รับความสนใจ เช่นในกรณีของเอลซัลวาดอร์ ซึ่งตั้งแต่ปี 2024 ได้ประกาศให้ *บิตคอยน์* เป็นสกุลเงินอย่างเป็นทางการ โดยใช้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ฟื้นฟูเศรษฐกิจ นายาบ บูเคเล ประธานาธิบดีขณะนั้น ชี้ว่าก้าวนี้ช่วยปลดแอกประเทศจากแรงกดดันระหว่างประเทศและวางรากฐานใหม่ด้านเศรษฐกิจ ขณะที่ข่าวดังกล่าวยังดึงดูดความสนใจจาก อีลอน มัสก์(Elon Musk) ผู้บริหารเทสลา(TSLA) เป็นอย่างมาก
ราคาของ *บิตคอยน์* ก็ปรับสูงขึ้นตามกระแสความเชื่อมั่น โดยจากเดือนตุลาคมของปีที่แล้วที่อยู่ราว 71,000 ดอลลาร์หรือประมาณ 9,869,000 บาท มาสู่ระดับ 120,464 ดอลลาร์ หรือกว่า 16,705,000 บาทในเดือนตุลาคมปีนี้ เพิ่มขึ้นกว่า 90% ซึ่งไม่เพียงแต่อยู่ภายใต้แรงซื้อเพื่อแสวงหากำไรเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงสถานะใหม่ของ *บิตคอยน์* ในฐานะ ‘ทองคำดิจิทัล’ ที่ชี้ว่ามันได้กลายมาเป็นเครื่องมือปกป้องมูลค่าท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก
การได้รับรางวัลโนเบลของมาชาโดจึงเปรียบเสมือนใบเบิกทางให้กับบทบาทใหม่ของ *คริปโตเคอร์เรนซี* ที่ไม่ใช่แค่สินทรัพย์เพื่อเก็งกำไรอีกต่อไป แต่เป็นเครื่องมือเพื่อ *สิทธิมนุษยชนและการปลดแอกทางเศรษฐกิจ* ซึ่งอาจนำไปสู่การยอมรับที่กว้างขึ้นในหลายประเทศและในหมู่ประชาชนที่เห็น *บิตคอยน์* เป็นหนทางสู่อิสรภาพและการอยู่รอด
ความคิดเห็น 0