ราคาของริปเปิล(XRP) ร่วงลงอย่างหนัก ส่งผลให้นักลงทุนเกิดความกังวลอย่างมาก โดยในช่วงที่บิตคอยน์(BTC) และอีเธอเรียม(ETH) เผชิญกับแรงกดดันจากฝั่งขาย ริปเปิล(XRP) กลับได้รับผลกระทบยิ่งกว่านั้น ตามข้อมูลวันที่ 30 พบว่าราคา XRP ลดลงถึง 29.9% ภายในเดือนเดียว และร่วงไปกว่า 14% ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา
การปรับตัวลงครั้งนี้มีหลายปัจจัยที่เข้ามาส่งผลกระทบ หนึ่งในนั้นคือสถานการณ์ตลาดคริปโตที่กำลังเผชิญกับแรงขายอย่างหนัก โดยบิตคอยน์(BTC) ปรับตัวลดลง 6.2% ขณะที่โซลานา(SOL) และโดจคอยน์(DOGE) ทรุดตัวถึง 12.6% และ 10.3% ตามลำดับ ขณะที่ริปเปิล(XRP) ก็ถูกเทขายพร้อมกับตลาด ลดลงกว่า 10.5% ภายใน 24 ชั่วโมง
อีกปัจจัยสำคัญที่กดดันราคาคือ “วาฬ” หรือนักลงทุนรายใหญ่ที่เทขาย XRP ในปริมาณสูง รายงานล่าสุดระบุว่าบัญชีที่ถือ XRP ในปริมาณมากได้โอนเหรียญรวมกว่า 81 ล้าน XRP ไปยังตลาดแลกเปลี่ยน ซึ่งเพิ่มอุปทานในตลาดและทำให้ราคาอ่อนตัวลงอย่างรวดเร็ว
จากมุมมองการวิเคราะห์ทางเทคนิค สัญญาณยังไม่เอื้อต่อการฟื้นตัวของ XRP ดัชนี RSI ปัจจุบันอยู่ที่ 33.04 ซึ่งบ่งชี้ว่า XRP อยู่ในโซน ‘ขายมากเกินไป’ (Oversold) อย่างไรก็ตาม การลดลงของสถานะฟิวเจอร์สที่เปิดอยู่ (Open Interest) มากกว่า 15% บ่งบอกถึงความเชื่อมั่นที่ลดลงของนักลงทุน แม้ว่าปริมาณการซื้อขายรายวันจะพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 3 กุมภาพันธ์ ที่ 105.2 ล้านเหรียญ แต่ความผันผวนยังคงสูง
นักลงทุนบางส่วนยังคงจับตามองปัจจัยบวก เช่น ความเป็นไปได้ที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) อาจถอนฟ้องคดีเกี่ยวกับ XRP รวมถึงโอกาสที่นโยบายรัฐบาลสหรัฐฯ จะเปลี่ยนไปสนับสนุนคริปโตมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีสัญญาณชัดเจนที่บ่งบอกถึงการกลับตัวขึ้นของราคา ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าหาก XRP ไม่สามารถรักษาระดับแนวรับที่ 2.30 ดอลลาร์เอาไว้ได้ อาจมีแรงขายเพิ่มขึ้นและราคาปรับตัวลดลงต่อไป
ตลาดกำลังจับตาดูว่าการร่วงครั้งนี้เป็นเพียงการปรับฐานปกติ หรืออาจเป็นสัญญาณของแรงเทขายเพิ่มเติม นักลงทุนจึงต้องใช้ความระมัดระวังในการตัดสินใจลงทุนในช่วงเวลานี้
ความคิดเห็น 0