ประธานาธิบดีทรัมป์ยืนยันอย่างเป็นทางการว่า เขาจะจัดการประชุมกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงแห่งประเทศจีน ในการประชุมสุดยอดความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก(APEC) ที่จะจัดขึ้น ณ กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ในวันที่ 31 ตุลาคมนี้ การตัดสินใจดังกล่าวถือเป็นการพลิกจุดยืนจากคำกล่าวก่อนหน้าที่ว่า "ไม่มีเหตุผลที่จะเข้าร่วม" ส่งผลให้ตลาดคริปโตมีปฏิกิริยาทันที โดยแสดงแนวโน้ม *ปรับตัวขึ้น* ทัดเทียมตลาดการเงินอื่นทั่วโลก
การยืนยันนี้มาจากบทสัมภาษณ์ของทรัมป์กับสำนักข่าว Fox News โดยเขาระบุว่า “จะพบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงที่กรุงโซลในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า และจะมีผู้นำสำคัญรายอื่นร่วมด้วย” นอกจากนี้ ทรัมป์ยังกล่าวชื่นชมผู้นำจีนว่าเป็น “ผู้นำที่แข็งแกร่งและน่าทึ่ง” พร้อมทั้งกล่าวว่า “ชีวิตของเขามีเรื่องราวที่น่าสร้างเป็นภาพยนตร์ และเราสามารถจัดการความสัมพันธ์กับจีนได้ดีขึ้น” ทั้งยังเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการสร้าง “ข้อตกลงที่เป็นธรรม”
ตลาดการเงินตอบรับข่าวนี้ในเชิงบวก เนื่องจากมีความคาดหวังว่า *ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างสหรัฐและจีนจะผ่อนคลาย* นักลงทุนทั่วโลกเริ่มทยอยเข้าถือครองสินทรัพย์เสี่ยง อาทิ หุ้นต่างประเทศ, สินค้าโภคภัณฑ์, ตลาดเงินตรา และคริปโตเคอร์เรนซีอย่างบิตคอยน์(BTC) และอีเธอเรียม(ETH)
บรรดานักลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลต่างจับตาการประชุมระดับ G2 ระหว่างสหรัฐฯ–จีน ว่าอาจนำไปสู่การคลี่คลายด้านนโยบายการค้า หรืออาจมีการตั้งข้อตกลงใหม่ ๆ ขึ้น ผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ว่า “คริปโตเคอร์เรนซีตอบสนองอย่างรวดเร็วต่อราคาโลก นโยบายต่างประเทศ และทิศทางอัตราดอกเบี้ย การประชุม APEC ครั้งนี้จึง*มีแนวโน้มกระตุ้นความเชื่อมั่นของนักลงทุน*”
การตัดสินใจของทรัมป์ครั้งนี้แตกต่างจากแนวทางแข็งกร้าวที่เคยแสดงออกไว้ก่อนหน้า โดยนักลงทุนในคริปโตมองว่า อาจเป็นสัญญาณของโอกาสใหม่ หากการประชุมครั้งนี้นำมาซึ่งความก้าวหน้าทางการทูตที่จับต้องได้ ก็มีแนวโน้มว่า *บิตคอยน์และคริปโตเคอร์เรนซีโดยรวมจะได้รับแรงซื้อจากกระแสเงินทุนที่ไหลเข้ามาในตลาด*
ความคิดเห็น 0