ไบบิท(Bybit) ออกมาตรการตอบโต้ ‘กลุ่มแฮ็กเกอร์ลาซารัส’ หลังถูกขโมยคริปโตมูลค่า 1.46 พันล้านดอลลาร์
เบน โจว(Ben Zhou) ซีอีโอของไบบิท(Bybit) ประกาศมาตรการตอบโต้ต่อ ‘กลุ่มแฮ็กเกอร์ลาซารัส’ หลังจากการโจรกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลมูลค่า 1.46 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในการแฮ็กครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของวงการคริปโต
เมื่อวันที่ 25 โจวออกแถลงการณ์ว่า ไบบิทได้จัดตั้งเว็บไซต์ชื่อ ‘รางวัลลาซารัส’ เพื่อติดตามและกู้คืนเงินที่ถูกขโมย พร้อมนำเสนอรางวัลสำหรับผู้ที่สามารถให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการระบุตำแหน่งของสินทรัพย์ที่ถูกขโมย โดยเริ่มต้นด้วยรางวัล 5% ของจำนวนเงินที่กู้คืนได้ และสำหรับผู้ที่ให้ข้อมูลสำคัญเป็นพิเศษ อาจได้รับรางวัลสูงสุดถึง 10%
ตามรายงานของ แซกซ์เอ็กซ์บีที(ZachXBT) ซึ่งเป็นนักวิเคราะห์ด้านความปลอดภัย เปิดเผยว่า กลุ่มลาซารัสขโมยสินทรัพย์ไปจากไบบิทเมื่อวันที่ 21 และมีรายงานว่าส่วนหนึ่งของเงินที่ถูกขโมยถูกแช่แข็งไว้บนเครือข่ายแมนเทิล(Mantle) โดยจนถึงขณะนี้ แมนเทิลสามารถแช่แข็งเงินได้มูลค่า 41 ล้านดอลลาร์ ในขณะที่แซกซ์เอ็กซ์บีทีช่วยแช่แข็งเพิ่มอีก 181,000 ดอลลาร์
บริษัทวิเคราะห์บล็อคเชน อิลลิปติก(Elliptic) ชี้ให้เห็นว่า กลุ่มลาซารัสเริ่มเข้าสู่กระบวนการ ‘ฟอกเงินรอบสอง’ ด้วยการใช้แพลตฟอร์มบล็อกเชนแบบไม่สามารถระบุตัวตน รวมถึงบริการมิกซิ่ง(Mixing) และมีความเป็นไปได้ว่าบางส่วนของเงินที่ถูกขโมยถูกส่งไปยังเว็บเทรดที่ไม่มีมาตรการ KYC
เหตุการณ์นี้อาจทำลายสถิติของการแฮ็กครั้งใหญ่ที่สุดในวงการคริปโต ซึ่งเดิมเคยเกิดขึ้นกับโรนินบริดจ์(Ronin Bridge) ในปี 2022 โดยมูลค่าความเสียหายครั้งนั้นอยู่ที่ 625 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ไบบิทถือเป็นเป้าหมายล่าสุดของกลุ่มแฮ็กเกอร์ลาซารัส ซึ่งจากปี 2017 ถึง 2023 มีการโจรกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลรวมกันสูงถึง 3 พันล้านดอลลาร์
นอกจากการตอบโต้ทางเทคนิคแล้ว ไบบิทยังวางแผนร่วมมือกับหน่วยงานกฎหมายระดับนานาชาติเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการกู้คืนสินทรัพย์และนำตัวผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เหตุการณ์นี้ทำให้บรรดาผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมเรียกร้องให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นในตลาดคริปโต
ความคิดเห็น 0