บริษัทบิตโก(BitGo) ผู้ให้บริการรับฝากสินทรัพย์ดิจิทัลได้ประกาศให้การสนับสนุนการดูแลรักษาเหรียญแคันตันคอยน์(CC) ซึ่งเป็นโทเคนหลักของเครือข่ายแคันตัน(Canton Network) โดยความเคลื่อนไหวครั้งนี้ถือว่ามีความสำคัญ เนื่องจากเปิดทางให้นักลงทุนสถาบันในสหรัฐสามารถถือครอง CC ผ่านผู้รับฝากที่ได้รับการรับรองอย่างเหมาะสม
เมื่อวันที่ 3 (เวลาท้องถิ่น) บิตโกและแคันตันเน็ตเวิร์กได้ออกแถลงการณ์ร่วมกัน โดยระบุว่าความร่วมมือครั้งนี้จะทำให้ธนาคารและบริษัทจัดการสินทรัพย์สามารถเข้าถึงสินทรัพย์จริงที่ถูกโทเคนไลซ์อย่างเช่น CC ได้อย่างเป็นไปตามกฎระเบียบ เดิมทีแพลตฟอร์มแคันตันมีจุดยืนในการรองรับการโทเคนไลซ์สินทรัพย์จริงจำนวนมากและแสดงศักยภาพในการใช้งานในระดับองค์กรอย่างชัดเจน
บิตโกจะให้บริการดูแล CC ผ่านระบบ ‘คัสโตเดียล’ แบบโคลด์สตอเรจ พร้อมการรับประกันความปลอดภัยในระดับประกันภัย โดยในอนาคตคาดว่าการสนับสนุนอาจขยายไปถึงสเตเบิลคอยน์ โทเคนหลักทรัพย์ รวมถึงสินค้าในตลาดการเงินอื่น ๆ ที่อยู่บนบล็อกเชน
เมลวิส ลังยินตูโอ(Melvis Langyintuo) กรรมการผู้อำนวยการของมูลนิธิแคันตันได้กล่าวว่า “การผนวกระบบครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการผลักดัน CC ให้เข้าสู่กรอบของระบบการเงินแบบดั้งเดิม และส่งเสริมการเติบโตของระบบนิเวศแคันตัน” โดยแคันตันเน็ตเวิร์กมีเป้าหมายในการสร้างแพลตฟอร์มที่เน้นการทำงานร่วมกันของสถาบันการเงินภายใต้กรอบการกำกับดูแล และสนับสนุนกระบวนการโทเคนไลซ์สินทรัพย์
ด้านบริษัทผู้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของแคันตัน คือ ดิจิทัล แอสเซต(Digital Asset) ได้รับเงินลงทุนกว่า 135 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง โกลด์แมน แซคส์, ซิทาเดล ซีเคียวริตีส์, บีเอ็นพี พาริบา และบริษัทฝากหลักทรัพย์แห่งสหรัฐ (DTCC) ซึ่งถือเป็นการตอกย้ำถึงความไว้วางใจจากนักลงทุนสถาบัน
ปัจจุบัน บิตโกดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลมูลค่ารวมกว่า 90,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และกำลังขยายบริการอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบโจทย์ความต้องการโครงสร้างพื้นฐานที่สอดคล้องกับกฎระเบียบ ล่าสุดบริษัทได้ยื่นคำขอล่วงหน้าในการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนกับคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) เพื่อเตรียมความพร้อมในการเสนอขายหุ้นต่อสาธารณะ (IPO)
*ความคิดเห็น: การที่บิตโกให้การสนับสนุนการดูแล CC เป็นสัญญาณว่าตลาดโทเคนที่อิงกับทรัพย์สินจริงกำลังสร้างโครงสร้างพื้นฐานในระดับสถาบันอย่างเป็นรูปธรรม นี่อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่นำไปสู่การขยายตัวของสินทรัพย์ประเภทสเตเบิลคอยน์และโทเคนหลักทรัพย์ในอนาคต*
ความคิดเห็น 0