Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

นักลงทุนคริปโตเตรียมพร้อม! สหรัฐเริ่มบังคับใช้รายงานภาษีดิจิทัลเข้มข้นปี 2025

นักลงทุนคริปโตเตรียมพร้อม! สหรัฐเริ่มบังคับใช้รายงานภาษีดิจิทัลเข้มข้นปี 2025 / Tokenpost

สำหรับนักลงทุนคริปโต การยื่นภาษีถือเป็น ‘ภาระจำเป็น’ ที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ โดยเฉพาะจากปี 2025 เป็นต้นไป หลายประเทศรวมถึงสหรัฐ จะเริ่ม ‘เพิ่มความเข้มงวด’ ในการรายงานข้อมูล ซึ่งส่งผลให้ผู้ลงทุนต้องจัดการเอกสารและข้อมูลให้แม่นยำและเป็นระบบมากยิ่งขึ้น

ในสหรัฐ กรมสรรพากร (IRS) ได้จัดประเภทคริปโตเป็น ‘สินทรัพย์ดิจิทัล’ และกำหนดให้ต้องรายงานการทำธุรกรรมทั้งหมดเพื่อการเสียภาษี ไม่ว่าจะเป็นการขาย, การแลกเปลี่ยน, การขุด, สเตกกิ้ง หรือการได้รับคริปโตผ่านแอร์ดรอป ล้วนถือเป็นรายการที่ต้องเสียภาษี อย่างไรก็ตาม การ‘ถือครองเฉยๆ’ หรือการโอนเหรียญระหว่างกระเป๋าของตนเอง รวมถึงการบริจาคนั้น ถือว่า *ปลอดภาษี*

ผู้เสียภาษีในสหรัฐต้องเลือกใช้แบบฟอร์มให้ตรงกับประเภทธุรกรรม เช่น การขายสินทรัพย์ต้องใช้ ‘แบบฟอร์ม 8949’ ขณะที่รายได้จากการขุดหรือสเตกกิ้งต้องใช้ ‘แบบฟอร์ม 1040 Schedule 1’ และตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป ทุกกระดานเทรดแบบรวมศูนย์จะต้องส่งแบบ ‘Form 1099-DA’ ให้ IRS รายงานธุรกรรมของผู้ใช้ และในปี 2026 จะต้องระบุ ‘ต้นทุน’ ของการซื้อเหรียญด้วย ซึ่งหมายถึงหน่วยงานภาษีกำลัง ‘ขยายขอบเขตการตรวจสอบ’ อย่างชัดเจน

ฝั่งยุโรปและสหราชอาณาจักรเองก็กำลังเข้มงวดขึ้น โดย HMRC ของอังกฤษได้นำทั้งภาษีกำไรจากทุน (CGT) และภาษีรายได้มาใช้กับคริปโต พร้อมกำหนดวงเงินยกเว้น 3,000 ปอนด์สำหรับปีภาษี 2024/2025 ส่วนสหภาพยุโรปแม้จะมีกฎหมายกลางอย่าง MiCA เชื่อมโยงประเทศสมาชิก แต่กฎภาษียังคงเป็นเรื่องเฉพาะของแต่ละชาติ เช่น เยอรมนีให้ยกเว้นภาษีหากถือครองเหรียญเกิน 1 ปี ขณะที่ออสเตรีย, เดนมาร์ก และฝรั่งเศส อาจเก็บภาษีคริปโต *สูงถึง 50%*

เพราะกฎหมายภาษีเปลี่ยนแปลงเร็วและขั้นตอนการยื่นซับซ้อน ผู้ใช้งานคริปโตจำนวนมากจึงหันมาใช้ซอฟต์แวร์ภาษีเฉพาะทาง เช่น ‘Koinly’, ‘CoinLedger’, ‘CoinTracker’, ‘CryptoTaxCalculator’ และ ‘TokenTax’ ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับกระดานเทรดและกระเป๋าหลายร้อยรายการ และช่วยคำนวณกำไร-ขาดทุนโดยอัตโนมัติ โดยเฉพาะผู้ที่ลงทุน DeFi, NFT หรือมีการเทรดบ่อย จะสามารถ *ประหยัดเวลาได้มาก*

ในเดือนเมษายน 2025 ทรัมป์ได้ลงนามในกฎหมายยกเลิกข้อบังคับที่กำหนดให้แพลตฟอร์ม DeFi ทำหน้าที่เป็นนายหน้าและรายงานธุรกรรมผู้ใช้ต่อ IRS ซึ่ง *ลดภาระการรายงานสำหรับบางโปรเจกต์* แต่ถึงอย่างนั้น นักลงทุนยังมีหน้าที่ในการยื่นภาษีด้วยตัวเอง

ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีเตือนว่า ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยมักเกิดจาก ‘การลืมบันทึกบางธุรกรรม’, ‘เข้าใจผิดว่าโอนกระเป๋าคือต้องเสียภาษี’, และ ‘ละเลยรายได้จากแอร์ดรอปหรือสเตกกิ้ง’ นอกจากนี้ ค่าธรรมเนียมอย่างเช่นก๊าซใน DeFi หากไม่ได้ระบุเป็นค่าใช้จ่าย ก็อาจทำให้ถูกเรียกเก็บภาษีมากเกินจริง

ท้ายที่สุด การจัดการภาษีจากคริปโตจึงกลายเป็นสิ่งที่นักลงทุนควรศึกษาอย่างจริงจัง เนื่องจากเหรียญดิจิทัลถูกจัดว่าเป็น ‘ทรัพย์สิน’ ไม่ใช่ ‘เงิน’ การเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบ และการยื่นเอกสารอย่างถูกต้องจึงเป็น ‘หัวใจสำคัญ’ ไม่เพียงเพื่อความถูกต้องตามกฎหมาย แต่ยังช่วยประหยัดทั้งเวลาและต้นทุนในระยะยาวอีกด้วย

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1