ราคาของบิตคอยน์(BTC) ลดลงประมาณ 21.4% จากจุดสูงสุดที่ 109,300 ดอลลาร์ในช่วงเดือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางส่วนยังคงมองว่ามีโอกาสกลับตัวไปสู่ขาขึ้น โดยอ้างอิงจาก ‘โมเดล Wyckoff’ ซึ่งคาดการณ์ว่าบิตคอยน์อาจกลับมาทดสอบระดับ 100,000 ดอลลาร์อีกครั้ง
โมเดล Wyckoff เป็นรูปแบบที่แสดงถึงการสะสมใหม่หลังจากแนวโน้มขาขึ้น ซึ่งประกอบด้วย 9 ขั้นตอนหลัก นักวิเคราะห์ตลาดอิสระ ‘SuperBro’ ระบุเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ว่าบิตคอยน์อาจอยู่ในช่วง ‘ทดสอบ’ (Test) ตามรูปแบบนี้ โดยคาดว่าราคาจะได้รับแรงสนับสนุนที่บริเวณ 85,950 ดอลลาร์ ก่อนมีโอกาสดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 96,780 ดอลลาร์
ในเดือนสิงหาคม 2024 รูปแบบเดียวกันนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว เมื่อบิตคอยน์ไต่ขึ้นจาก 53,400 ดอลลาร์ไปถึง 74,000 ดอลลาร์ สิ่งที่น่าสนใจคือ การฟื้นตัวของราคาหลังจาก ‘ทรัมป์’ ชนะการเลือกตั้ง ซึ่งทำให้ราคาเคลื่อนไหวแบบ ‘ไซด์เวย์’ เป็นเวลานาน ก่อนจะเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้น นักวิเคราะห์คริปโต ‘Vijay Boyapati’ คาดการณ์ว่า “บิตคอยน์อาจต้องใช้เวลาสะสมตัวอีกระยะ” และเสริมว่า “จุดสูงสุดของรอบนี้ยังมาไม่ถึง”
ในขณะเดียวกัน กราฟรายสัปดาห์ของบิตคอยน์ชี้ให้เห็นถึงความเป็นไปได้ของการปรับฐานเพิ่มเติม จากสถิติที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าบิตคอยน์มีแนวโน้มลงไปแตะแนวรับที่เส้นค่าเฉลี่ย EMA 50 สัปดาห์ทุกครั้งหลังจากขึ้นแตะจุดสูงสุด ซึ่งขณะนี้เส้น EMA ดังกล่าวอยู่ที่ 76,390 ดอลลาร์ หมายความว่า อาจมีความเสี่ยงที่จะปรับตัวลงอีกราว 15% หากราคารักษาระดับที่แนวรับนี้ได้ อาจมีโอกาสดีดตัวกลับ แต่ถ้าหลุดแนวรับนี้ไป ราคามีโอกาสร่วงไปถึง 57,690 ดอลลาร์ หรืออาจต่ำสุดที่ 48,170 ดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม ถ้าบิตคอยน์สามารถยืนอยู่เหนือระดับ 85,000 ดอลลาร์ – 90,000 ดอลลาร์ และฟื้นตัวขึ้นไปได้ ก็อาจเปิดทางให้ราคากลับมาทดสอบจุดสูงสุดเดิมที่ 100,000 ดอลลาร์อีกครั้ง หากเป็นเช่นนั้น จะเป็นสัญญาณเข้าสู่ช่วง ‘แข็งแกร่ง’ (Sign of Strength) ตามโมเดล Wyckoff ซึ่งเป็นการเร่งให้ตลาดกระทิงกลับมาอีกครั้ง
ท่ามกลางความไม่แน่นอนของตลาด นักลงทุนต่างจับตาดูว่าบิตคอยน์จะพักฐานอีกระยะหนึ่งหรือจะกลับตัวอย่างแข็งแกร่ง ปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาคือแนวรับหลักของราคาและสถานการณ์ทางเศรษฐกิจทั่วโลก ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญต่อทิศทางตลาดในอนาคต
ความคิดเห็น 0