แพลตฟอร์มดีไฟแนน์ซ์(DeFi) รายใหญ่ *บาลานเซอร์(Balancer)* เผชิญเหตุโจมตีจากช่องโหว่ใน *สมาร์ตคอนแทรกต์* ส่งผลให้สูญเสียทรัพย์สินรวมมูลค่ากว่า *128.64 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1,286.4 ล้านบาท)* โดยมีความเป็นไปได้ว่า *ความเสียหายอาจขยายวงกว้าง* ไปสู่โปรเจกต์อื่นๆ ที่ใช้เทคโนโลยีของบาลานเซอร์เป็นพื้นฐาน
*แพ็คชิลด์(PeckShield)* บริษัทด้านความปลอดภัยบนบล็อกเชนเปิดเผยว่า ทั้งบาลานเซอร์และโปรเจกต์ฟอร์กของมันได้ถูกโจมตีในวงกว้าง โดยระบุว่าปัจจุบัน *ยอดความเสียหายสะสมอยู่ที่ประมาณ 128.64 ล้านดอลลาร์สหรัฐ* โดยการโจมตีหลักพุ่งเป้าไปยังพูลเวอร์ชัน v2 ขณะที่พูลเวอร์ชันล่าสุด v3 ไม่ได้รับผลกระทบ
*มิโกะ โอทามา(Mikko Ohtamaa)* ซีอีโอของเทรดดิ้งสเตรตจี(Trading Strategy) ให้ความเห็นว่า *สาเหตุหลักของเหตุโจมตีครั้งนี้เกิดจากข้อบกพร่องในการตรวจสอบสมาร์ตคอนแทรกต์* พร้อมเน้นว่า มีโปรโตคอล AMM ที่คล้ายกับบาลานเซอร์ไม่น้อยกว่า 27 รายที่อาจเสี่ยงเช่นกัน ขณะเดียวกัน *ผู้โจมตียังคงปล่อยสมาร์ตคอนแทรกต์ใหม่และสร้างโทเคน ERC-20 แบบคัสตอม* ซึ่งอาจหมายความว่าการโจมตีนี้ *ยังไม่สิ้นสุด*
วิศวกรจากอัลเคมี(Alchemy) *อุตตัม ซิงห์(Uttam Singh)* วิเคราะห์ความเสียหายรายเชนและระบุว่า *การโจมตีดังกล่าวเกิดขึ้นในหลายเชน* ไม่ใช่เพียงแค่เครือข่ายใดเครือข่ายหนึ่ง ขณะเดียวกันแพลตฟอร์มวิเคราะห์บล็อกเชน *Lookonchain* รายงานว่า วอลเล็ตของนักลงทุนรายใหญ่ ‘*0x0090*’ ที่ถือสินทรัพย์ในบาลานเซอร์ไว้เป็นจำนวนมาก ได้ *ถอนเงินด่วนมูลค่าประมาณ 6.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 650 ล้านบาท)* หลังจากนิ่งเงียบมานานถึง 3 ปี
บาลานเซอร์ออกแถลงการณ์ว่ากำลังตรวจสอบช่องโหว่ที่อาจเกิดในพูลเวอร์ชัน v2 พร้อมยืนยันว่าทีมด้านเทคนิคและความปลอดภัยอยู่ระหว่างวิเคราะห์ปัญหาและจัดทำแผนรับมือ โดยจะเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมในประกาศถัดไป
ทั้งนี้ บาลานเซอร์เคยประสบปัญหาด้านความปลอดภัยมาแล้วใน *เดือนกันยายน 2023* เมื่อเว็บไซต์ถูกโจมตีแบบ DNS ผ่านการแฮ็กจาก *EuroDNS* บริษัทจดโดเมน ซึ่งคราวนั้น *ZachXBT* นักสืบข้อมูลบล็อกเชนประเมินว่าความเสียหายอยู่ที่กว่า *240,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 24 ล้านบาท)*
เหตุโจมตีครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึง *ความเปราะบางของระบบสมาร์ตคอนแทรกต์ในดีไฟ* และก่อให้เกิดความกังวลว่าอาจนำไปสู่ *วิกฤตความเชื่อมั่นในระบบนิเวศดีไฟโดยรวม* โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ผู้โจมตี *ยังคงเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง*
‘*ความปลอดภัยของดีไฟ’ และ ‘การตรวจสอบสมาร์ตคอนแทรกต์*’ กลับมาอยู่ในความสนใจของวงการอีกครั้ง และทุกสายตาต่างจับจ้องว่าเหตุการณ์นี้จะส่งผลต่อทิศทางของดีไฟในอนาคตอย่างไรต่อไป
ความคิดเห็น 0