วาฬรายใหญ่ในตลาดคริปโตฯ กลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง เมื่อเขาทุ่มเงินกว่า 5,500 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 5.5 พันล้านบาท เพื่อเก็งกำไรการปรับขึ้นของ *บิตคอยน์(BTC)* และ *อีเธอเรียม(ETH)*
เมื่อวันที่ 3 แพลตฟอร์มวิเคราะห์คริปโตฯ *อาร์คัม(Arkham)* เปิดเผยผ่านบัญชี X (อดีตทวิตเตอร์) ว่า วาฬที่รู้จักในชื่อ *Hyperunit* ได้เปิดสถานะ *Long* ใหม่บนแพลตฟอร์มซื้อขายอนุพันธ์แบบกระจายศูนย์ *Hyperliquid* โดยวางเดิมพันไว้ที่ *บิตคอยน์* มูลค่า 3,700 ล้านดอลลาร์ และ *อีเธอเรียม* อีก 1,800 ล้านดอลลาร์ รวมเป็นการลงทุนรอบใหม่มูลค่า 5,500 ล้านดอลลาร์
วาฬ Hyperunit ไม่ใช่หน้าใหม่ในวงการ ก่อนหน้านี้เขาเคยสร้างกำไรมหาศาล โดยเมื่อวันที่ 10 เดือนที่ผ่านมา เขาสามารถคาดการณ์การร่วงลงของตลาดคริปโตฯ จากความตึงเครียดทางภาษีระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งผลักดันให้เขาสร้างรายได้ถึง 2 หมื่นล้านดอลลาร์ผ่านการเปิดสถานะ *Short*
หลังจากนั้น เขายังปิดกำไรด้วยสถานะ Short เพิ่มอีก 2 ครั้งติดต่อกัน จนทำให้ตลาดจับตามองพฤติกรรมของเขาเป็นพิเศษ อาร์คัมระบุว่า "ต้องติดตามว่า นี่จะเป็นครั้งที่สี่ที่เขาประสบความสำเร็จหรือไม่"
แม้ว่าตลาดจะยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน แต่การเปิด *Long* ครั้งใหม่นี้สะท้อนถึง *ความมั่นใจอย่างสูง* ของวาฬรายนี้ต่อแนวโน้มการดีดตัวของบิตคอยน์และอีเธอเรียม ความสามารถในการวิเคราะห์เทรนด์ระยะกลางถึงยาว และการตัดสินใจที่แม่นยำของเขากำลังดึงดูดสายตาของนักลงทุนจำนวนมาก
*ความคิดเห็น:* การเคลื่อนไหวของวาฬรายนี้อาจกลายเป็นสัญญาณสำคัญสำหรับนักลงทุนที่กำลังมองหาสัญญาณการกลับตัวของแนวโน้มตลาด เนื่องจากเขาเคยมีผลงานที่แม่นยำมาแล้วหลายครั้ง
                    
                                            
                                                                                                                    
                                                                                                                    
                                                                                                                    
                                                                                                                    
                                                                                                                    
                                                                                                                    
                                                                                                                    
                                                                                                                    
                                                                                                                    
                                                                                                                    
                                                        
                                                        
                                                        
                                                        
                                                
                                                
                                                
                                                
                                                
                                                
                                                
ความคิดเห็น 0