ตลาด ‘สเตเบิลคอยน์’ กำลังร้อนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ล่าสุด ‘MEXC’ ซึ่งเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลระดับโลก ได้ตัดสินใจลงทุน 20 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 720 ล้านบาท) ใน ‘USDe(USDE)’ ซึ่งเป็นสเตเบิลคอยน์แบบสังเคราะห์ของ ‘อีเธนา(Ethena)’
เมื่อวันที่ 26 MEXC เปิดเผยว่า พวกเขาได้เพิ่มเงินทุนสนับสนุนแก่ ‘อีเธนา แลบส์(Ethena Labs)’ ซึ่งเป็นทีมพัฒนา ‘USDe’ จำนวน 16 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 576 ล้านบาท) นอกจากนี้ บริษัทยังวางแผนใช้เงินอีก 4 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 144 ล้านบาท) สำหรับโปรแกรมรางวัลต่าง ๆ เพื่อจูงใจให้มีการซื้อขายและ ‘สเตกกิ้ง’ USDe มากขึ้น
ปัจจุบัน ‘USDe’ มีมูลค่าหมุนเวียนในตลาดประมาณ 5.9 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.12 แสนล้านบาท) และถือเป็นสเตเบิลคอยน์ที่ใหญ่เป็นอันดับสามของตลาด ตามข้อมูลจาก ‘CoinMarketCap’ จุดเด่นของ USDe คือการใช้ ‘กลยุทธ์ป้องกันความเสี่ยง(hedging)’ ด้วยสินทรัพย์คริปโต แทนที่จะใช้ ‘เงินสด’ เป็นหลักประกันเหมือน ‘เทเธอร์(USDT)’ หรือ ‘USD คอยน์(USDC)’ ปัจจุบัน ผู้ถือครอง USDe สามารถคาดการณ์ ‘อัตราผลตอบแทน’ ได้สูงถึง 9% ต่อปี
‘เทรซี จิน(Tracy Jin)’ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ (COO) ของ MEXC กล่าวถึงเหตุผลเบื้องหลังการลงทุนครั้งนี้ว่า “สเตเบิลคอยน์มีบทบาทสำคัญในการเพิ่มการใช้งานและการยอมรับคริปโตในระดับโลก”
ประกาศดังกล่าวมีขึ้นไม่นานหลังจาก ‘อีเธนา’ สามารถระดมทุนมูลค่ากว่า 100 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3.6 พันล้านบาท) จากนักลงทุนสถาบันชั้นนำ เช่น ‘แฟรงคลิน เทมเพิลตัน(Franklin Templeton)’ โดยเงินทุนนี้ถูกระดมผ่าน ‘Private Sale’ ของโทเคนกำกับดูแลหรือ ‘ENA’ Bloomberg รายงานว่า ‘อีเธนา’ มีแผนใช้เงินทุนดังกล่าวเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานบล็อกเชนที่รองรับธุรกิจ ‘การเงินแบบดั้งเดิม(Traditional Finance)’ และเสริมสร้างระบบนิเวศของโทเคนใหม่
ตลาด ‘สเตเบิลคอยน์’ กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ข้อมูลจากอุตสาหกรรมแสดงให้เห็นว่ามูลค่าตลาดรวมของสเตเบิลคอยน์ทั้งหมดทะลุ 220 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 7.92 ล้านล้านบาท) แล้ว และเพิ่มขึ้นกว่า ‘73%’ ตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว โดย ‘เทเธอร์(USDT)’ ยังคงครอง ‘อันดับหนึ่ง’ ด้วยอุปทานหมุนเวียนกว่า 140 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 5.04 ล้านล้านบาท)
ทั้งนี้ ตลาดอาจมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เมื่อ ‘คณะกรรมการหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ(SEC)’ อนุมัติสเตเบิลคอยน์ที่จ่ายดอกเบี้ย ‘YLDS’ เป็นครั้งแรกเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ‘YLDS’ เสนอผลตอบแทนประมาณ 3.85% ต่อปี ซึ่งอาจกระตุ้นให้การแข่งขันในตลาดเข้มข้นขึ้นไปอีก
ความคิดเห็น 0