โดจคอยน์(DOGE) เผชิญกับแรงกดดันอย่างหนักท่ามกลางการปรับฐานของตลาดคริปโตเคอร์เรนซี ทำให้นักวิเคราะห์บางรายเริ่มกังวลว่าแนวโน้มราคาของเหรียญมีแนวโน้มกลับสู่ภาวะขาลงอีกครั้ง โดยเฉพาะเมื่อมีรายงานว่าบรรดานักลงทุนรายใหญ่นั้นได้เทขายโดจคอยน์กว่า 1,000 ล้านเหรียญในช่วงเวลาเพียงสัปดาห์เดียว
เมื่อวันที่ 24 (เวลาท้องถิ่น) อาลี มาร์ติเนซ(Ali Martinez) นักวิเคราะห์คริปโตชื่อดังเปิดเผยผ่านแพลตฟอร์ม X ว่าบรรดาวาฬโดจคอยน์ได้ทำการขายเหรียญออกมาจำนวนมหาศาลคิดเป็นมูลค่าราว 165 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 2,100 พันล้านวอน ส่งผลให้ปัจจุบันเหลือการถือครองเพียงประมาณ 23,000 ล้าน DOGE ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนราว 15% ของอุปทานทั้งหมด
มาร์ติเนซกล่าวว่า การขายในปริมาณมากแบบนี้มักเป็น ‘สัญญาณขาลง’ ที่สร้างความกังวลให้ตลาด และอาจนำไปสู่การเทขายตามมาของนักลงทุนรายย่อย นอกจากนี้ เขายังระบุว่าแนวโน้มราคาของโดจคอยน์เริ่มปรับขึ้นตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา แต่เมื่อเร็วๆ นี้ได้หลุดแนวรับหลักที่ 0.18 ดอลลาร์ (ประมาณ 236 บาท) จึงมีโอกาสถอยลงไปลึกถึงระดับ 0.11 ดอลลาร์ (ประมาณ 144 บาท)
อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีมุมมองบวกหลงเหลืออยู่บ้าง แชนด์เลอร์(Chandler) เทรดเดอร์สายคริปโตชี้ว่า โดจคอยน์เคยแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในช่วงเดือนพฤศจิกายนหลายปีที่ผ่านมา และมีความเป็นไปได้ที่การฟื้นตัวเกิดขึ้นอีกครั้งในปีนี้ นอกจากนี้ ‘อีลอน มัสก์(Elon Musk)’ ก็ออกมาจุดกระแสอีกครั้ง โดยโพสต์ข้อความว่า “ถึงเวลาแล้ว” พร้อมอีโมจิหน้ายิ้ม โดยอ้างอิงถึงทวีตในปี 2021 ที่เขากล่าวว่าบริษัทสเปซเอ็กซ์กำลังวางแผนส่งโครงการที่เกี่ยวกับโดจคอยน์ไปยังดวงจันทร์จริงๆ
ในแง่ภาพทางเทคนิค ยังมีสัญญาณเชิงบวกจากดัชนี RSI ของโดจคอยน์ที่อยู่ใกล้ระดับ 30 ซึ่งโดยทั่วไปแล้วถือว่าเป็น ‘ภาวะขายมากเกินไป’ และมักเป็นจุดเริ่มต้นของการรีบาวน์ ดังนั้นเสียงจากบางส่วนในแวดวงการเทรดจึงมองว่า โดจคอยน์อาจถึงจุดต่ำสุดระยะสั้นแล้ว
ราคาที่ร่วงลงในรอบนี้ของโดจคอยน์ เป็นผลจากการเทขายของนักลงทุนรายใหญ่ การหลุดแนวรับทางเทคนิค และกระแสกดดันจากการปรับฐานของตลาดภาพรวม อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวของมัสก์ แนวโน้มการฟื้นตัวตามฤดูกาล และสัญญาณจากค่า RSI ยังทำให้ตลาดมีความหวังว่าเหตุการณ์นี้อาจกลายเป็นอีกหนึ่ง ‘โอกาสเข้าซื้อ’ หรืออาจถึงเวลาของการกลับตัวในไม่ช้านี้
ความคิดเห็น 0