อีเธอเรียม(ETH) กำลังเผชิญแรงกดดันจากตลาดหลังจากที่ราคาปรับตัวลดลงต่อเนื่อง โดยในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ราคาร่วงลงมากกว่า 6% และจากข้อมูลเมื่อวันที่ 7 ราคาได้ปรับลดลงไปกว่า 17% จากระดับสูงสุดในปี มาอยู่ต่ำกว่า 3,200 ดอลลาร์ (ประมาณ 432,000 บาท) การปรับฐานในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในปีนี้ที่เหรียญเบอร์สองของตลาดคริปโตกำลัง ‘ทดสอบแนวรับทางเทคนิค’ สำคัญอีกครั้ง
ไม่เพียงแค่คู่เทรด ETH/ดอลลาร์เท่านั้น คู่เทรดกับบิตคอยน์(BTC) ก็แสดงสัญญาณอ่อนแรงเช่นกัน โดยนักวิเคราะห์คริปโตชื่อดัง มิกาเอล ฟาน เดอ โพเพอ มองว่า แนวรับของ ETH/BTC อยู่บริเวณ 0.0326 BTC ซึ่งเป็นจุดที่เคยมีการสะสมเหรียญมาก่อน เขายอมรับว่า ราคาหลุดลงมาลึกกว่าที่คาดไว้ แต่ ‘ยังเป็นจุดที่น่าสนใจในการเข้าซื้อ’ จากมุมมองของนักลงทุนสายเทคนิค
สำหรับตัวชี้วัดทางเทคนิค กำลังส่งสัญญาณที่หลากหลาย ดัชนีความแข็งแรงสัมพัทธ์ (RSI) รายสัปดาห์ยังไม่เข้าสู่โซนขายมากเกินไป แต่สโตแคสติกรายวันกลับ ‘ชี้ชัดว่าอยู่ในโซน oversold ลึก’ ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ที่แรงขายจะเริ่มชะลอตัว ขณะที่ดัชนี MACD ยังคงอยู่ในแดนลบ แต่ ‘ฮิสโตแกรมเริ่มแคบ’ บ่งบอกถึงแรงโมเมนตัมขาลงที่เริ่มอ่อนแรงลง
แง่มุมเชิงบวกยังพอมีอยู่บ้าง เมื่อพิจารณาจากมุมมองระยะยาว นักวิเคราะห์ คัมราน อัสกา กล่าวว่า ETH ยังคงรักษา ‘แนวโน้มขาขึ้น’ ที่ลากยาวมาตั้งแต่ปี 2022 และกำลังทดสอบเส้นแนวโน้มนั้นอีกครั้ง โดยในอดีตเหรียญเคย ‘ดีดตัวขึ้นจากโซนนี้’ หลายครั้ง ซึ่งทำให้ยังมีโอกาสสำหรับการฟื้นตัวจากบริเวณนี้หากสามารถยืนได้
แต่ภาพรวมก็ยังมีความเสี่ยงต่อการร่วงลงต่อ โดยนักวิเคราะห์ อาลี มาร์ติเนซ เตือนว่า ถ้า ETH ไม่สามารถทะลุแนวต้าน 3,800 ดอลลาร์ (ราว 513,000 บาท) ได้ ก็อาจมีโอกาสที่ราคาจะไหลลงสู่บริเวณ 2,400 ดอลลาร์ (ประมาณ 324,000 บาท) หรืออาจลงลึกถึง 1,700 ดอลลาร์ (ประมาณ 230,000 บาท) ในทำนองเดียวกัน เทรดเดอร์รายหนึ่งชื่อ เท็ด มองว่า หาก ETH ไม่สามารถฟื้นตัวขึ้นไปเหนือโซน 3,500–3,600 ดอลลาร์ (ประมาณ 472,000–486,000 บาท) ได้ ก็มีความเสี่ยงที่ราคาจะร่วงกลับสู่ระดับ 2,800 ดอลลาร์ (ราว 378,000 บาท)
ในเวลานี้อีเธอเรียมกำลัง ‘เคลื่อนไหวใกล้แนวรับทางเทคนิคสำคัญ’ โดยที่ทิศทางของราคาในอนาคตอาจขึ้นอยู่กับปฏิกิริยาของตลาดในระยะสั้น หากแรงซื้อกลับเข้ามาอาจเห็นการรีบาวด์ในช่วงสั้น แต่หากราคายังไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านหลักได้ ก็มีโอกาสที่จะเห็น ‘แรงขายรอบใหม่’ ในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
ความคิดเห็น 0