ในช่วงที่ตลาดคริปโตเคลื่อนไหวอย่างผันผวน บรรดาอัล트คอยน์กลับแสดงแนวโน้มฟื้นตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โครงการอย่าง ‘อินเทอร์เน็ตคอมพิวเตอร์(ICP)’ และ ‘ซีแคช(ZEC)’ ที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างน่าจับตา ท่ามกลางกระแสย่ำแย่ของริปเปิล(XRP) ที่แม้มีข่าวดีหลายด้านกลับไม่สามารถยืนราคาได้ตามคาด
ริปเปิลเพิ่งจะระดมทุนได้กว่า 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมประกาศการเป็นพันธมิตรกับมาสเตอร์การ์ด สร้างความคาดหวังในหมู่นักลงทุน แต่ราคาของ XRP แม้เคยพุ่งถึง 2.40 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,120 บาท) ก็ไม่สามารถรักษาระดับไว้ได้ โดยล่าสุดถอยลงมาอยู่ที่ราว 2.20 ดอลลาร์ (ประมาณ 2,860 บาท) หรือร่วงลงกว่า 12% ภายในสัปดาห์เดียว เหล่านักวิเคราะห์ต่างชี้ว่าเป็นผลจากการเทขายของ ‘วาฬ’ ที่ปล่อย XRP ออกมากว่า 900,000 เหรียญในช่วง 5 วันที่ผ่านมา โดยนักเทรดชื่อดังอย่าง "IncomeSharks" เตือนว่า ราคาอาจหลุดแนวรับหลักที่ 2 ดอลลาร์ (ประมาณ 2,600 บาท) อย่างไรก็ตาม บางมุมกลับมองเป็น ‘โอกาสซื้อ’ โดย ‘Mikybull Crypto’ เชื่อว่า XRP อาจมีโอกาสพุ่งขึ้นถึง 8-10 ดอลลาร์ (ประมาณ 10,400-13,000 บาท) และ ‘Kamran Asghar’ ประเมินว่านี่คือ “โซนซื้อดีที่สุดในรอบหลายเดือน”
ตรงกันข้ามกับ XRP ซีแคชกลับแสดงว่าอัลท์คอยน์บางตัวสามารถสวนกระแสได้อย่างรุนแรง ZEC ทะยานขึ้นถึง 630 ดอลลาร์ (ประมาณ 81,900 บาท) ภายในไม่กี่ชั่วโมง ส่งผลให้ราคาเพิ่มขึ้นกว่า 350% ในรอบเดือนเดียว จนขยับขึ้นตำแหน่งในตารางมูลค่าตามราคาตลาด ไปอยู่อันดับที่ 19 แซงบิตคอยน์แคช(BCH), สเตลลาร์(XLM), และซุย(SUI) นักวิเคราะห์ด้านเทคนิคมองแนวต้านถัดไปที่ 750 ดอลลาร์ (ประมาณ 97,500 บาท) และบางกระแสอย่างอาเธอร์ เฮย์ส(Arthur Hayes) ถึงกับคาดการณ์ว่า ZEC มีศักยภาพแตะระดับ 10,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.3 ล้านบาท) แม้คาดการณ์นี้ยังถูกมองว่า ‘เกินจริง’ โดยส่วนใหญ่
อีกหนึ่งเหรียญที่เป็นที่สนใจคือ อินเทอร์เน็ตคอมพิวเตอร์ ซึ่งราคา ICP พุ่งขึ้นกว่า 170% ภายในหนึ่งสัปดาห์ โดยเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน ราคาสูงสุดเคยแตะใกล้ 9 ดอลลาร์ (ประมาณ 11,700 บาท) ก่อนจะย่อลงมาอยู่ที่ระดับ 7.90 ดอลลาร์ (ประมาณ 10,270 บาท) เบื้องหลังแนวโน้มบวกรอบนี้คือแพลตฟอร์มใหม่ ‘Caffeine’ ที่เปิดตัวโดยทีมพัฒนา DFINITY ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มพัฒนาปัญญาประดิษฐ์(AI) บนบล็อกเชน ช่วยขยายขอบเขตการใช้งานของเทคโนโลยี
ผู้เชี่ยวชาญในทวิตเตอร์หลายรายมีมุมมองเชิงบวก โดย ‘CRYPTOKSA’ เห็นว่า ICP มีลุ้นทะลุแนวต้าน 10 ดอลลาร์ ขณะที่ ‘JAVON MARKS’ มองว่า ICP อาจเติบโตได้สูงถึง 10 เท่าในระยะกลางถึงยาว
สถานการณ์ล่าสุดสะท้อนว่า แม้บิตคอยน์(BTC) และอีเธอเรียม(ETH) ยังคงทรงตัว แต่กลุ่มอัลต์คอยน์บางตัวสามารถสร้างกระแสของตัวเองได้จากปัจจัยเฉพาะ เช่น การขยายพันธมิตร, การพัฒนาเทคโนโลยี และการใช้ประโยชน์จาก AI ในการกระตุ้นความสนใจของนักลงทุน ‘ความเปลี่ยนแปลง’ ในมุมเทคโนโลยี กำลังกลายเป็นปัจจัยขับเคลื่อนราคาที่ทรงพลัง และเป็นระบบนิเวศที่นักลงทุนควรจับตา
แม้จะยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าการปรับตัวขึ้นของอัลต์คอยน์จะยั่งยืนหรือไม่ แต่การเคลื่อนไหวเหล่านี้ก็ให้บทเรียนสำคัญว่า ‘โอกาส’ ยังมีอยู่แม้ในช่วงที่ตลาดโดยรวมกำลังชะลอตัว
ความคิดเห็น 0