นักลงทุนบิตคอยน์(BTC)รายใหญ่ที่ถือครองระยะยาวเริ่มทยอยขายสินทรัพย์ของตนและโยกเข้าสู่กองทุนรวมอิงดัชนีหรือ ETF มากขึ้น ข้อมูลล่าสุดชี้ว่าการเคลื่อนไหวนี้เป็น ‘กลยุทธ์การกระจายพอร์ตและลดภาษี’ ที่เกิดขึ้นในวงกว้าง
เมื่อวันที่ 12 มาร์ติน ไฮส์บอก(Martin Hiesboeck) หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ Uphold แพลตฟอร์มบริการการเงินบนคลาวด์เปิดเผยผ่าน X(ชื่อเดิมคือทวิตเตอร์) ว่า นักลงทุนรุ่นแรกที่ถือบิตคอยน์มานานหรือที่เรียกว่า ‘OG นักลงทุน’ เริ่มขายสินทรัพย์เพื่อเปลี่ยนไปถือครอง ETF ที่ให้ประโยชน์ทางภาษีมากกว่า “ภายใต้กฎหมายภาษีของสหรัฐในปัจจุบัน ETF มีข้อได้เปรียบชัดเจนในแง่ภาษี ทำให้หลายคนหันมาใช้ช่องทางนี้ในการบริหารสินทรัพย์” ไฮส์บอกกล่าว
เขายังเสริมอีกว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้สะท้อนแนวโน้มใหม่ที่ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีบล็อกเชนมากกว่าการครอบครองเพียงบิตคอยน์เพียงอย่างเดียว “โปรเจกต์บล็อกเชนนับร้อยที่มีการใช้งานจริงในภาคการเงิน โลจิสติกส์ และอุตสาหกรรม กำลังถูกมองว่ามีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่มากกว่าบิตคอยน์ ซึ่งเป็นเพียงสินทรัพย์เดียว”
ในแง่ของพฤติกรรมตลาด ล่าสุด โอเวน กุนเดน นักลงทุนที่อยู่ในวงการบิตคอยน์ตั้งแต่ยุคแรกและเคยใช้กลยุทธ์การเก็งกำไรกำไรระยะสั้น ได้ทำการโอนบิตคอยน์ออกจากพอร์ตของตนจำนวน 3,549BTC จากทั้งหมด 11,000BTC เข้าสู่กระดานซื้อขาย ตามข้อมูลจากแพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูลบล็อกเชน Lookonchain ซึ่งคาดว่าเป็นส่วนหนึ่งของการขายเพื่อปรับสมดุลพอร์ต
แนวโน้มที่เกิดขึ้นนี้สะท้อนให้เห็นว่า ตลาด ETF ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการพัฒนาและหลากหลายของอุตสาหกรรมบล็อกเชน ส่งผลให้กลยุทธ์การถือครองบิตคอยน์ในระยะยาวต้องมีการปรับเปลี่ยน จากเดิมที่ใช้แนวทาง ‘ทองคำดิจิทัล’ ไปสู่การเลือกลงทุนที่คำนึงถึง *ความสามารถในการใช้งานจริงและศักยภาพในการทำกำไรที่ชัดเจนกว่า*
ความคิดเห็น 0