ธนาคารกลางอังกฤษเริ่มเดินหน้าควบคุม *สเตเบิลคอยน์* อย่างจริงจัง โดยมุ่งเน้นการจำกัดความเสี่ยงเชิงระบบของสเตเบิลคอยน์ที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือชำระเงิน พร้อมเปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียก่อนบังคับใช้ข้อบังคับใหม่
เมื่อวันที่ 6 ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ได้เผยแพร่ *ร่างข้อบังคับฉบับใหม่* ผ่านเว็บไซต์ทางการ โดยมีเป้าหมายสำคัญคือ การกำกับดูแล *สเตเบิลคอยน์ที่ผูกกับเงินปอนด์อังกฤษ* ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อเสถียรภาพของระบบการเงินหากมีการใช้งานในวงกว้าง
ข้อเสนอระบุว่าบริษัทที่ออกสเตเบิลคอยน์ซึ่งใช้สกุลเงินปอนด์เป็นฐานจะต้องถือครองเงินสำรองอย่างน้อย 40% ของหนี้สินทั้งหมดในรูปแบบเงินฝากแบบไม่มีดอกเบี้ยไว้กับธนาคารกลาง และอีกไม่เกิน 60% จะสามารถถือเป็นพันธบัตรรัฐบาลระยะสั้นของอังกฤษได้ เพื่อรองรับกรณีฉุกเฉินที่เงินทุนไหลออกอย่างรวดเร็ว
ธนาคารกลางยังเสนอการจำกัดวงเงินในครอบครองของ *นักลงทุนรายย่อย* ไม่ให้เกิน 20,000 ปอนด์ต่อโทเคน (ราว 34.3 ล้านบาท) ขณะที่ *ผู้ประกอบการค้าปลีก* สามารถถือครองได้สูงถึง 10 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,715 ล้านบาท) หากมีความจำเป็นทางธุรกิจ และอาจได้รับการยกเว้นหากปฏิบัติตามเกณฑ์ที่กำหนด
กระบวนการรับฟังความคิดเห็นจะดำเนินจนถึงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2026 ก่อนที่จะมีผลบังคับใช้จริงในช่วงครึ่งหลังของปีเดียวกันนี้ โดย *ธนาคารกลางอังกฤษ* เน้นว่ามาตรการใหม่นี้มีเป้าหมายในการควบคุมความเสี่ยงจากภาวะ *แบงก์รัน* ที่อาจเกิดขึ้นหากสเตเบิลคอยน์ผูกติดกับสินทรัพย์เพียงประเภทเดียวมากเกินไป
ความคิดเห็น: มาตรการนี้สะท้อนถึงท่าทีเชิงรุกของอังกฤษในการวางรากฐานสำหรับการใช้ *เงินสดดิจิทัล* อย่างปลอดภัย โดยไม่บดบังนวัตกรรมในภาคการเงิน
การประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่หลายประเทศเร่งพัฒนากฎระเบียบด้าน *คริปโตและสินทรัพย์ดิจิทัล* โดยเฉพาะสเตเบิลคอยน์ สหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรปต่างก็เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกัน ซึ่งอาจนำไปสู่การกำหนดมาตรฐานสากลในอนาคตอันใกล้
ความคิดเห็น 0