จอห์น ดีตัน ทนายความที่มีจุดยืนสนับสนุนคริปโตเคอร์เรนซี เตรียมลงสมัครเลือกตั้งวุฒิสมาชิกสหรัฐอีกครั้ง หลังพ่ายแพ้ต่อเอลิซาเบธ วอร์เรนจากพรรคเดโมแครตไปเมื่อปีที่ผ่านมา โดยแม้จะเคยใช้ประเด็นสนับสนุนคริปโตเป็นจุดขายหลัก แต่ในการเลือกตั้งครั้งใหม่นี้ ดีตันกลับเลือกหันมาเน้นนโยบายด้านปัญหาค่าครองชีพจำนวนมาก แทนที่จะกล่าวถึงคริปโตอย่างชัดเจน
เมื่อปี 2024 ดีตันเคยลงแข่งกับวอร์เรนโดยเน้นนโยบายส่งเสริมคริปโตและได้รับคะแนนเสียงถึง 40% อย่างไรก็ตาม วอร์เรนกลับได้คะแนนถึง 59.8% หรือราว 718,760 คะแนน ทิ้งห่างดีตันเกือบ 20 จุด ทั้งคู่เคยแสดงจุดยืนตรงข้ามกันอย่างชัดเจนในประเด็นการออกกฎหมายควบคุมคริปโต โดยดีตันเป็นที่รู้จักในฐานะแฟนพันธุ์แท้ของริปเปิล(XRP)
แต่สถานการณ์ในปี 2025 เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก โดยเฉพาะหลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์กลับเข้าสู่ตำแหน่ง และมีท่าทีผ่อนคลายต่อนโยบายคริปโตเคอร์เรนซี ส่งผลให้ภาคอุตสาหกรรมเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัว ด้วยเหตุนี้ แคมเปญของดีตันจึงเลือกขยับนโยบายไปสู่การตอบสนองความเดือดร้อนของชนชั้นกลาง เช่น ปัญหาเงินเฟ้อที่กระทบต่อผู้สูงอายุ ภาระค่าใช้จ่ายครอบครัว และค่าที่อยู่อาศัยที่เพิ่มสูงขึ้น
คู่แข่งในการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ใช่วอร์เรน แต่เป็นเอ็ด มาร์กี้ วุฒิสมาชิกจากรัฐแมสซาชูเซตส์ ซึ่งกำลังดำรงตำแหน่งสมัยที่สองในนามพรรคเดโมแครต และมีเป้าหมายลงสมัครต่อในปี 2026 เพื่อสมัยที่สาม
ดีตันประกาศผ่านโซเชียลมีเดียว่า “พร้อมจะต่อสู้เพื่อคนที่ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อยังชีพให้ครอบครัว” โดยนโยบายที่ยกขึ้นมีตั้งแต่การควบคุมราคาสินค้า การดูแลทหารผ่านศึก การเข้าถึงบริการสาธารณสุข และการปรับปรุงระบบการศึกษา พร้อมทั้งกล่าวหาว่า มาร์กี้เพิกเฉยต่อปัญหาภาระค่าครองชีพและค่าใช้จ่ายด้านพลังงานที่ชาวแมสซาชูเซตส์ต้องเผชิญ
แม้ว่านโยบายเกี่ยวกับคริปโตจะไม่ปรากฏบนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของแคมเปญดีตัน แต่เขายังคงเปิดรับเงินสนับสนุนผ่านสินทรัพย์ดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นบิตคอยน์(BTC), อีเธอเรียม(ETH), โซลานา(SOL), ริปเปิล(XRP), ดอจคอยน์(DOGE) และด็อกวิฟเฮท(WIF)
ขณะเดียวกัน ดีตันก็ไม่ใช่ผู้แข่งขันเพียงรายเดียวที่ท้าทายมาร์กี้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเซธ มอลตันจากพรรคเดโมแครต ก็ประกาศลงสมัครเช่นกัน โดยชูแนวคิดการเปลี่ยนผ่านผู้นำรุ่นใหม่
"ความคิดเห็น" การเลือกตั้งครั้งนี้อาจไม่ใช่เวทีแห่งการชิงพื้นที่คริปโตเหมือนในอดีต หากแต่กลายเป็นการประลองทางการเมืองผ่านประเด็นเศรษฐกิจจริงที่สะท้อนชีวิตประชาชน
ความคิดเห็น 0