รัฐบาลอิหร่านเข้มงวดกับคริปโต ปิดกั้นการชำระเงินผ่านสกุลเงินท้องถิ่น
รัฐบาลอิหร่านกำลังดำเนินมาตรการเข้มงวดต่อสกุลเงินดิจิทัล ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจที่รุนแรง ล่าสุด ธนาคารกลางอิหร่าน(CBI) ได้สั่งห้ามใช้เงินเรียลในการทำธุรกรรมคริปโตโดยสิ้นเชิง ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้งานคริปโตมากกว่า 10 ล้านคน ข้อจำกัดนี้ถูกมองว่าเป็นความพยายามในการป้องกันไม่ให้ค่าเงินเรียลอ่อนค่าลงอีก
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อัตราเงินเฟ้อของอิหร่านพุ่งสูงกว่า 40% ทำให้ประชาชนหันไปใช้สินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อปกป้องความมั่งคั่งของตนเอง นอกจากนี้ อิหร่านยังถูกตัดขาดจากระบบการเงินระหว่างประเทศเนื่องจากมาตรการคว่ำบาตร ส่งผลให้คริปโตกลายเป็นช่องทางสำคัญในการทำธุรกรรมข้ามพรมแดน อย่างไรก็ตาม รัฐบาลมองว่าการเติบโตของตลาดคริปโตอาจเร่งให้เกิดการไหลออกของเงินทุนและทำให้ค่าเงินเรียลอ่อนค่าลงไปอีก
ด้วยการออกมาตรการนี้ ธนาคารกลางอิหร่านได้รับอำนาจในการควบคุมภาคคริปโตโดยตรง ขณะเดียวกัน รัฐบาลก็เพิ่มมาตรการปราบปรามการซื้อขายที่ผิดกฎหมายด้วย โดยหนึ่งในข้อบังคับใหม่คือ การจำกัดความผันผวนของราคา เทเธอร์(USDT) ในประเทศไว้ที่ไม่เกิน 4% ต่อวัน ซึ่งมีผลกระทบต่อแพลตฟอร์มซื้อขายภายในประเทศทันที
ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่ามาตรการดังกล่าวอาจลดสภาพคล่องของตลาดคริปโตในอิหร่าน และทำให้การเข้าถึงของนักลงทุนภายในประเทศยากขึ้น นอกจากนี้ หากรัฐบาลยังคงเดินหน้าควบคุมอย่างเข้มงวด อาจทำให้ชุมชนคริปโตในอิหร่านหันไปพึ่งพาตลาดนอกประเทศมากขึ้น 🚀
ความคิดเห็น 0