คริปโตดอทคอม (Crypto.com) บริษัทวิจัยสินทรัพย์ดิจิทัลระดับโลก เปิดเผยในรายงานล่าสุดว่า เทคโนโลยี ‘การพิสูจน์ความรู้ศูนย์ (Zero-Knowledge Proof หรือ ZKP)’ กำลังก้าวขึ้นมาเป็นกุญแจสำคัญในการรักษาความเป็นส่วนตัวและขยายความสามารถของบล็อกเชนในเวลาเดียวกัน ZKP เป็นกลไกเข้ารหัสที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถ ‘พิสูจน์ความถูกต้องของข้อมูล’ โดยไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลจริงนั้นออกมา ซึ่งมีบทบาทสำคัญเป็น ‘โครงสร้างพื้นฐานหลัก’ สำหรับยุค Web3
แม้บล็อกเชนจะสร้างความน่าเชื่อถือด้วยการกระจายศูนย์และความโปร่งใส แต่ขณะเดียวกันก็สร้างช่องโหว่ด้าน ‘ความเป็นส่วนตัว’ เนื่องจากธุรกรรมทั้งหมดสามารถถูกเปิดเผยได้ต่อทุกคนในเครือข่าย อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลของคริปโตดอทคอม ZKP สามารถเป็นทางออกสำหรับปัญหานี้โดยตรง เช่น การแสดงความเป็นผู้ใหญ่หรือการมีเงินเพียงพอ โดยไม่มีความจำเป็นต้องเปิดเผยวันเกิดหรือยอดเงินคงเหลือ
ZKP มีคุณสมบัติ 3 ข้อหลักที่ทำให้มันน่าเชื่อถือ ได้แก่ *ความสมบูรณ์* ที่ช่วยให้ผู้พิสูจน์สามารถแสดงข้อมูลที่ถูกต้อง, *ความถูกต้อง* ที่ป้องกันไม่ให้ผู้พิสูจน์ข้อมูลเท็จหลอกลวงผู้ตรวจสอบ, และ *ความไม่รู้อื่นนอกจากข้อพิสูจน์* ที่ช่วยให้ผู้ตรวจสอบไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลอื่นใดนอกจากสิ่งที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว
เทคโนโลยีนี้กำลังถูกนำไปใช้งานในหลากหลายด้านของโลกคริปโต ไม่ว่าจะเป็นโปรโตคอลการเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi) แบบส่วนตัว, ระบบเลือกตั้งดิจิทัลที่ไม่เปิดเผยตัวตน, การยืนยันตัวตนและกระบวนการ KYC ที่ไม่เปิดเผยข้อมูลสำคัญ โดยเฉพาะบนโครงสร้าง ‘Layer 2’ ของบล็อกเชน เช่น ZK Rollup ที่ช่วยรวมธุรกรรมจำนวนมากเป็นการพิสูจน์เพียงชุดเดียว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดความแออัดของเครือข่าย
ZKP ยังถูกจำแนกออกเป็นแบบ *โต้ตอบได้ (Interactive)* และ *ไม่โต้ตอบ (Non-Interactive)* โดยแบบหลังเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นในโลกจริง เพราะสามารถใช้พิสูจน์ข้อมูลได้โดยไม่ต้องแลกเปลี่ยนข้อความหลายครั้ง ตัวอย่างเช่น ZK-SNARK ที่สามารถสร้างการพิสูจน์ได้อย่างรวดเร็วแต่ต้องอาศัยการตั้งค่าที่เชื่อถือได้ในช่วงเริ่มต้น ส่วน ZK-STARK เน้นความโปร่งใสและการขยายตัว โดยไม่ต้องพึ่งพาการตั้งค่าพื้นฐาน และถูกใช้งานจริงแล้วในแพลตฟอร์ม Layer2 อย่าง Starknet อีกรูปแบบหนึ่งคือ Bulletproofs ซึ่งได้รับความนิยมในโครงการโมเนโร(Monero) สำหรับการปกปิดจำนวนเงินในธุรกรรม
คริปโตดอทคอมวิเคราะห์เพิ่มเติมว่า ZKP จะกลายเป็นเทคโนโลยี ‘จำเป็น’ ในอนาคตของบล็อกเชน ไม่เพียงแต่ตอบโจทย์ด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว แต่ยังสอดคล้องกับข้อกำหนดตามกฎหมาย เช่น AML โดยไม่กระทบข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ยังส่งเสริมรูปแบบการกำกับดูแลตามสิทธิส่วนบุคคล และระบบบริหารจัดการแบบ DAO ซึ่งเน้นความโปร่งใสและไม่รวมศูนย์ได้อย่างลงตัว
อย่างไรก็ตาม ZKP ยังเผชิญกับความท้าทายในด้านประสิทธิภาพ เช่น ความต้องการพลังประมวลผลสูงและความซับซ้อนในการพัฒนา ซึ่งบ่งชี้ว่าเทคโนโลยียังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการเติบโต ความเห็นจากนักวิเคราะห์ชี้ว่า หากสามารถเร่งพัฒนามาตรฐานและลดต้นทุนการใช้งานได้ ZKP จะเป็นกุญแจสำคัญของอินเทอร์เน็ตยุคใหม่
โดยสรุป รายงานของคริปโตดอทคอมชี้ว่า ZKP กำลังเปลี่ยนผ่านจาก ‘ทางเลือก’ มาเป็น ‘รากฐานที่จำเป็น’ ของบล็อกเชนและ Web3 ไม่ว่าจะในบริการกระเป๋าเงินดิจิทัล, การตรวจสอบข้อมูลตามข้อกำหนด หรือระบบโหวตและกำกับดูแล จึงมีแนวโน้มจะเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีหลักที่ผลักดันให้ Web3 กลายเป็นโลกที่ ‘เป็นส่วนตัวและขยายได้’ อย่างแท้จริง
ความคิดเห็น 0