กระแสข่าวจากสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 10 (เวลาท้องถิ่น) รายงานว่า แคราเคน(Kraken) หนึ่งในตลาดซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซีรายใหญ่ของโลก ได้ยื่นเอกสาร IPO แบบไม่เปิดเผยต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) เพื่อขอจดทะเบียนหุ้นสามัญในตลาดหลักทรัพย์ ท่ามกลางความเคลื่อนไหวของธุรกิจคริปโตหลายรายที่พยายามเจาะเข้าสู่ตลาดทุนสหรัฐฯ
การยื่นไฟลิ่งครั้งนี้เกิดขึ้นทันทีภายหลังแคราเคนปิดการระดมทุนรอบล่าสุดที่มีมูลค่าสูงถึง 800 ล้านดอลลาร์ (ราว 27,000 ล้านบาท) ซึ่งมีบริษัทการเงินรายใหญ่อย่าง Citadel Securities ร่วมลงทุนถึง 200 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 7,000 ล้านบาท) การระดมทุนดังกล่าวยังทำให้แคราเคนได้รับการประเมินมูลค่ากิจการที่สูงถึง 20,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 720,000 ล้านบาท) แม้ที่ผ่านมา อาร์จุน เช็ตตี ซีอีโอร่วมของบริษัทจะระบุว่า ‘ยังไม่เร่ง’ แผนการทำ IPO ก็ตาม
อีกด้านหนึ่ง คณะกรรมการกำกับดูแลธนาคารของบาเซิล (Basel Committee on Banking Supervision หรือ BCBS) ซึ่งเป็นผู้กำหนดมาตรฐานด้านการควบคุมเงินทุนของธนาคารทั่วโลก กำลังพิจารณาทบทวนแนวทางการคำนวณความเสี่ยงของสินทรัพย์ดิจิทัล โดย เอริก เธิดิน ผู้ว่าการธนาคารกลางสวีเดน และประธาน BCBS เปิดเผยกับ Financial Times ว่า แนวทางเดิมที่ใช้ Risk Weight สูงถึง 1,250% อาจ ‘ต้องมีทางเลือกอื่นบ้าง’
แนวปฏิบัติดังกล่าวบังคับให้ธนาคารต้องสำรองเงินทุนเป็นจำนวนเท่ากับขนาดของคริปโตสินทรัพย์ที่ถือครอง ซึ่งรวมถึงเหรียญที่เชื่อมโยงกับบล็อกเชนแบบไร้การอนุญาต เช่น เทเธอร์(USDT) และ USDC อย่างไรก็ตาม เดอะดินระบุว่า “สเตเบิลคอยน์ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลเติบโตขึ้นอย่างชัดเจน” และ “เมื่อขนาดของสินทรัพย์ในระบบการเงินโตขึ้น ทิศทางของนโยบายก็ต้องพัฒนาเช่นกัน” ความเห็นนี้ส่งสัญญาณถึงความเป็นไปได้ในการผ่อนคลายเกณฑ์การถือครองสินทรัพย์คริปโตสำหรับสถาบันการเงิน
ด้านการเมืองในสหรัฐฯ ความเคลื่อนไหวด้านนโยบายก็เริ่มชัดเจนขึ้นเช่นกัน โดย ทิม สก็อตต์ ประธานคณะกรรมาธิการธนาคารประจำวุฒิสภา ประกาศว่าจะเริ่มแก้ไขร่างกฎหมายโครงสร้างตลาดคริปโตตั้งแต่เดือนหน้า พร้อมตั้งเป้าให้ผ่านวุฒิสภาและถึงมือ ‘ประธานาธิบดีทรัมป์’ ได้ในช่วงต้นปี 2026 เขาย้ำว่ารัฐบาลควรเร่งเคลื่อนไหวเพื่อให้สหรัฐฯ กลายเป็น ‘ศูนย์กลางคริปโตของโลก’ พร้อมโจมตีพรรคเดโมแครตที่พยายาม ‘ถ่วงเวลา’ ร่างกฎหมายนี้อย่างต่อเนื่อง
เมื่อพิจารณารวมกัน ทั้งกรณีที่แคราเคนเดินหน้าสู่ตลาดทุน จนถึงท่าทีที่ผ่อนคลายของหน่วยกำกับดูแลทางการเงินระดับโลก และแรงขับเคลื่อนจากฝั่งนิติบัญญัติในสหรัฐฯ ล้วนสะท้อนภาพตลาดคริปโตที่กำลังเข้าสู่จุดเปลี่ยนสำคัญ ‘คำ’ ที่ควรจับตามองในช่วงเวลานี้คือ การเข้าสู่ตลาดทุน, การปฏิรูปกฎระเบียบ และการกำหนดอนาคตของสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วโลก
ความคิดเห็น 0