บิตคอยน์(BTC) ร่วงลงแตะระดับ 80,600 ดอลลาร์ หรือราว 11,042,000 บาท เมื่อวันที่ 5 (เวลาท้องถิ่น) ทำให้การปรับตัวลงในรอบสัปดาห์ทะลุ 10% ไปเรียบร้อยแล้ว โดยตลอดเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา บิตคอยน์ปรับลดสะสมถึง 23% ซึ่งนับว่าเป็นการลดลงรายเดือนครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2022
จุดสำคัญที่ทำให้ตลาดจับตามองคือ บิตคอยน์หลุดระดับแนวรับ 84,000 ดอลลาร์ลงมาอีกครั้ง พร้อมกับกลับมาทดสอบเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โพเนนเชียล 100 สัปดาห์ (100-EMA) ซึ่งเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่เคยต่ำกว่าระดับดังกล่าวนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2023 ช่วงเริ่มต้นของวัฏจักรราคาในรอบขาขึ้นปัจจุบัน โดย ‘คำ’ นี้อาจตีความได้ว่าเป็นจุดแบ่งแนวโน้มของตลาดในระยะยาว
ทั้งนี้ นักลงทุนยังต้องรับมือกับความ ‘ไม่แน่นอนเชิงมหภาค’ รวมถึงปัจจัยการเมืองในสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะท่าทีต่อคริปโตของประธานาธิบดีทรัมป์ที่แม้จะเป็นมิตรกับสินทรัพย์ดิจิทัลแต่ก็ไม่ได้ช่วยให้ตลาดฟื้นตัวทันที ขณะที่แรงซื้ออ่อนแรงลงหลังการปรับขึ้นต่อเนื่องในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ข้อมูลต่างๆ สะท้อนว่า ‘โมเมนตัมขาขึ้นหลังเหตุการณ์ Halving’ กำลังอ่อนกำลังลง
การปรับฐานอย่างรุนแรงในเดือนมิถุนายน อาจกลายเป็น ‘โอกาสในการเข้าซื้อ’ สำหรับนักลงทุนระยะยาว อย่างไรก็ตาม สำหรับการเคลื่อนไหวในระยะสั้น ตลาดยังคงเผชิญแรงกดดันหลัง ‘แนวรับหลัก’ ถูกทลายลง จึงต้องจับตาว่าบิตคอยน์จะสามารถส่งสัญญาณการฟื้นตัวได้หรือไม่ เพราะสิ่งนี้จะกลายเป็น ‘ตัวแปรสำคัญ’ ในการกำหนดทิศทางของตลาดช่วงครึ่งปีหลัง
‘ความคิดเห็น’: เส้นค่าเฉลี่ยระยะยาว เช่น 100-EMA ยังสามารถทำหน้าที่เป็นแนวรับเชิงจิตวิทยาสำหรับนักลงทุนได้ หากบิตคอยน์สามารถยืนเหนือระดับนี้ได้ในระยะถัดไป โอกาสกลับตัวอาจยังคงมี โดยเฉพาะหากเห็น ‘ปริมาณการซื้อขาย’ ฟื้นตัว และแรงซื้อกลับเข้ามาในระดับที่มากพอ
ความคิดเห็น 0