คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ(SEC) เปิดเผยร่างข้อเสนอปรับปรุงกฎระเบียบใหม่สำหรับปี 2025 ซึ่งสะท้อนถึงความตั้งใจของรัฐบาลวอชิงตันในการออกแบบกรอบกำกับดูแลที่ ‘ยืดหยุ่น’ และ ‘เป็นระบบ’ มากยิ่งขึ้นสำหรับอุตสาหกรรมคริปโต ก่อนหน้านี้ ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนจากการกำกับดูแลที่ทับซ้อนกันของหลายหน่วยงาน เช่น SEC, คณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้า(CFTC), คณะกรรมการการค้าแห่งชาติ(FTC) และหน่วยงานปราบปรามอาชญากรรมทางการเงิน(FinCEN) การปรับโครงสร้างในครั้งนี้จึงสร้างความหวังว่าจะช่วยให้ ‘การกำกับดูแล’ มีความชัดเจนขึ้น และอาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในระดับอุตสาหกรรมโดยรวม
แนวทางใหม่ของ SEC มุ่งเน้น 4 ประเด็นหลัก ได้แก่ ‘นวัตกรรม’, ‘การระดมทุน’, ‘ประสิทธิภาพของตลาด’ และ ‘การคุ้มครองนักลงทุน’ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงจากแนวคิดเดิมที่พยายามบังคับใช้กฎหมายหลักทรัพย์แบบเดิม ๆ กับคริปโต ไปสู่การพัฒนานโยบายเฉพาะสำหรับสินทรัพย์ดิจิทัลโดยตรง
เนื้อหาหลักของแผนปรับปรุงนี้สามารถสรุปได้ 5 ประเด็นสำคัญ ประการแรก SEC จะเสนอ ‘เกณฑ์ชัดเจน’ สำหรับการออกและขายสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งรวมถึงกรณีของการเสนอขายเหรียญครั้งแรก(ICO) เพื่อช่วยลดความไม่แน่นอนว่าโครงการใดเข้าข่ายได้รับ ‘ข้อยกเว้น’ หรือ ‘อยู่ในเกณฑ์ความปลอดภัย’ ประการที่สอง มีการพิจารณาเปิดโอกาสในการอนุญาตให้สกุลเงินดิจิทัลอย่าง *บิตคอยน์(BTC)* และ *อีเธอเรียม(ETH)* จดทะเบียนและซื้อขายได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายในตลาดหลักทรัพย์ที่ได้รับอนุญาตในสหรัฐ
ประการที่สาม SEC เตรียมผ่อนปรนเงื่อนไขด้าน ‘การเปิดเผยข้อมูล’ ของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับคริปโต ด้วยเป้าหมายลดภาระการจัดการและชักจูงให้เข้าสู่ระบบการกำกับดูแลของรัฐ ประการที่สี่ คือการระบุ ‘ข้อกำหนดเฉพาะ’ สำหรับธุรกิจตัวกลาง ไม่ว่าจะเป็นโบรกเกอร์-ดีลเลอร์ ผู้ดูแลสินทรัพย์ หรือตลาดซื้อขาย เพื่อให้ทราบว่าต้องปฏิบัติตามกฎใดของกฎหมายหลักทรัพย์ และสุดท้ายคือการปรับปรุงระบบการเปิดเผยข้อมูล การส่งข้อเสนอของผู้ถือหุ้นที่ใช้ในบริษัทจดทะเบียนโดยรวม เพื่อบรรเทาภาระปฏิบัติตามกฎเกณฑ์
การเคลื่อนไหวในครั้งนี้ของสหรัฐอาจกลายเป็นโมเดลให้กับการจัดระเบียบกฎเกณฑ์คริปโตระดับโลก ดังเช่นกรณีของญี่ปุ่นที่ประกาศให้บิตคอยน์ถูกกฎหมายในปี 2017 และส่งผลให้มาตรฐานความปลอดภัยในอุตสาหกรรมเพิ่มสูงขึ้น ความคืบหน้าของร่างข้อเสนอนี้จึงขึ้นอยู่กับการประสานงานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนความสอดคล้องกับมาตรฐานสากล หากบรรลุผลอย่างราบรื่น ‘ความคิดเห็น’ ณ เวลานั้นคือ คริปโตเคอร์เรนซีอาจสามารถหลอมรวมกับระบบการเงินแบบดั้งเดิมได้ในที่สุด
ความคิดเห็น 0