กระเป๋าเงินคริปโต ‘เมตามาสก์(MetaMask)’ ได้เปิดเผยแผนงานสำหรับปีนี้ โดยวางแผนเพิ่มการรองรับเครือข่ายของบิตคอยน์(BTC) และโซลานา(SOL) เดินหน้าขยายขีดความสามารถจากเดิมที่เน้นเฉพาะเชนที่ใช้เครื่องเสมือนอีเธอเรียม(EVM) สู่การรองรับเชนหลายรูปแบบ พร้อมตั้งเป้าสร้างสภาพแวดล้อมที่ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมก๊าซ
เมตามาสก์เตรียมรองรับโซลานาในเดือนพฤษภาคมนี้ ซึ่งจะเป็นเชนที่ไม่ใช่ EVM ตัวแรกที่ได้รับการสนับสนุน ขณะที่การรองรับบิตคอยน์คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ ด้านแดน ฟินเลย์(Dan Finlay) ผู้ร่วมก่อตั้งเมตามาสก์ แถลงว่าการรองรับเครือข่ายเพิ่มเติมจะช่วยให้ผู้ใช้มีตัวเลือกที่มากขึ้น พร้อมทั้งขยายฟีเจอร์ ‘Gas-included swaps’ เพื่อให้สามารถใช้ทุกโทเคนที่ถืออยู่เป็นค่าธรรมเนียมได้
ในระยะยาว เมตามาสก์ตั้งเป้าสร้างระบบที่ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าก๊าซ โดยจะปรับปรุงหน้าโฮมใหม่เพื่อให้ผู้ใช้สามารถดูสินทรัพย์ของตนในหลายเชนได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังมีแผนเพิ่มฟีเจอร์ ‘Batched transactions’ ซึ่งช่วยลดขั้นตอนธุรกรรมซ้ำ ๆ เช่น ‘Approve & Swap’ ให้สามารถดำเนินการได้เพียงคลิกเดียว
แผนงานใหม่ยังครอบคลุมการเปลี่ยนจากบัญชีที่เป็นเจ้าของโดยภายนอก (EOA) สู่บัญชีแบบสัญญาอัจฉริยะ เพื่อเพิ่มความสามารถด้านความปลอดภัยและการใช้งานสินทรัพย์ นอกจากนี้ จะมีการเพิ่มฟีเจอร์จัดการ ‘Secret Recovery Phrase’ หลายชุดในกระเป๋าเดียว
ปฏิกิริยาจากผู้ใช้ต่อแผนงานใหม่นี้เป็นไปในเชิงบวก โดยผู้ใช้ X (อดีตทวิตเตอร์) รายหนึ่งที่ใช้นามว่า fairo.eth ได้กล่าวถึงโอกาสที่เมตามาสก์จะสามารถทวงคืนส่วนแบ่งตลาดจากคู่แข่งอย่างแฟนทอม(Phantom) และแรบบี(Rabby) ซึ่งครองตลาดกระเป๋าเงินของโซลานาอยู่ในปัจจุบัน
นอกจากนี้ เมตามาสก์ยังได้ร่วมมือกับมาสเตอร์การ์ด เปิดตัว ‘เมตามาสก์การ์ด’ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้คริปโตในการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้สะดวกยิ่งขึ้น พร้อมกันนี้ยังได้เปิดตัวโลโก้ใหม่อย่างเป็นทางการ
แผนงานของเมตามาสก์ในครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพียงการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ เท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงแนวทางการยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น และทำให้การซื้อขายสินทรัพย์บนดีไฟน์(DeFi) และระบบมัลติ-เชน เป็นเรื่องที่ใช้งานได้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น หากสามารถดำเนินการได้ตามแผน เมตามาสก์จะยิ่งกลายเป็นหนึ่งในกระเป๋าเงินคริปโตที่น่าสนใจที่สุดสำหรับผู้ใช้งานทั่วโลก
ความคิดเห็น 0