เอเอ็มแมเนจเมนต์(AM Management) เปิดเผยรายงานล่าสุดว่า ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีเริ่มแสดงสัญญาณฟื้นตัว ท่ามกลางความคาดหวังเรื่อง ‘การลดดอกเบี้ย’ จากการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินสหรัฐ(FOMC) ปลายปีนี้ และความเป็นไปได้ที่บริษัทขนาดใหญ่ระดับโลกจะนำ *บิตคอยน์(BTC)* ไปใช้งานมากขึ้น โดยเฉพาะการที่บิตคอยน์ยังคงครองอันดับ 7 ในกลุ่มสินทรัพย์ทั่วโลกด้านมูลค่าตลาด ชี้ให้เห็นว่าความนิยมในการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลยังคงแข็งแกร่ง
จากตัวเลขล่าสุด ดัชนีราคาการบริโภคส่วนบุคคล(PCE) ประจำเดือนธันวาคมของสหรัฐออกมาต่ำกว่าที่คาดเล็กน้อย สะท้อนภาวะเงินเฟ้อที่ชะลอตัว อย่างไรก็ตาม การดีดตัวของ ‘อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล’ และความเห็นที่ไม่เป็นเอกฉันท์ภายในธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ยังคงเพิ่ม *ความไม่แน่นอนด้านการลดดอกเบี้ย* ส่งผลให้ตลาดหุ้นยังอยู่ในภาวะระวังตัว แต่ตลาดคริปโตก็พลิกกลับได้อย่างรวดเร็ว โดย *เอเอ็มแมเนจเมนต์* ระบุว่า การที่สำนักงาน ก.ล.ต. สหรัฐ(SEC) เปิดตัวโครงการเว้นข้อบังคับสำหรับนวัตกรรม ยังช่วยเพิ่มแนวโน้มการเข้าสู่ระบบการเงินหลักให้คริปโตมากขึ้น
ตลาดสินทรัพย์ทั่วโลกระบุว่า บิตคอยน์มีมูลค่าตลาดรวมกว่า 1.821 ล้านล้านดอลลาร์ สร้างผลงานติดอันดับ 7 รองจากทองคำและเงินเท่านั้น พร้อมบวกขึ้น +4.35% ในช่วงสัปดาห์ดังกล่าว ส่วน *อีเธอเรียม(ETH)* เพิ่มสัดส่วนครองตลาดเป็น 12.23% บวกขึ้น 4.44% ส่งผลให้มูลค่าตลาดรวมของสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วโลกแตะ 3.06 ล้านล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 4.08% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อน
อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่หนุนราคาคือความคืบหน้าเกี่ยวกับ ETF โดยการที่บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง *แวนการ์ด(Vanguard)* กลับลำอนุญาตให้ซื้อขาย ETF สินทรัพย์ดิจิทัล เป็นสัญญาณสำคัญที่ช่วยให้ผู้เล่นสถาบันสามารถเข้าถึงตลาดได้มากขึ้น ซึ่งส่งผลให้ปริมาณถอนทุนจาก ETF ลดลงชัดเจน และยังบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของเสถียรภาพด้านราคาและอุปสงค์ในตลาด
ตลาดยังจับตาถึงถ้อยแถลงเกี่ยวกับนโยบายการเงินของเฟดอย่างใกล้ชิด แม้ว่าเฟดได้ลดดอกเบี้ยไปแล้ว 2 ครั้งในช่วงเดือนกันยายนถึงตุลาคม แต่ทิศทางของมาตรการต่อไปยังไม่ชัดเจน โดยกลุ่มกรรมการสายผ่อนคลายต่างเห็นว่าควรลดดอกเบี้ยต่อเนื่องเนื่องจากอัตราเงินเฟ้อและการจ้างงานเริ่มชะลอลง ขณะที่สายเข้มงวดยังคงกังวลว่าตลาดกำลังคาดการณ์ "การลดดอกเบี้ย" อย่างเกินความเป็นจริง *เอเอ็มแมเนจเมนต์* วิเคราะห์ว่าครั้งนี้ ‘ท่าทีของเฟด’ จะเป็นประเด็นหลัก ไม่ใช่แค่เรื่องระดับดอกเบี้ยเพียงอย่างเดียว
ในด้านเทคนิค รายงานชี้ว่าแม้ราคาบิตคอยน์จะเคยย่อลงถึง 36% ซึ่งต่ำกว่าระดับต่ำสุดของไตรมาสก่อนหน้า แต่ล่าสุดได้มีการดีดตัวจากจุดต่ำที่สูงขึ้น ซึ่งถือเป็นสัญญาณเริ่มต้นของการสร้างฐานราคา หากราคาสามารถยืนเหนือแนวรับที่ $83,500 และปิด ‘ช่องว่างราคา’ ของตลาดซื้อขายล่วงหน้า CME ที่ $89,400 ได้ ก็มีโอกาสเปลี่ยนแนวโน้มระยะกลางเป็นขาขึ้น
ในแวดวงคริปโตยังมีเหตุการณ์เด่นหลายรายการในระยะสั้น ทั้งการลดรางวัลของ Vertcoin และ Bittensor การปลดล็อกโทเคนของไลเนีย(Linea) จำนวน 1.38 พันล้านเหรียญ และการซื้อคืนโทเคนโดย Aster ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยที่นักวิเคราะห์มองว่าอาจส่งผลต่อทิศทางของ *ออนเชนดาต้า* ในระยะสั้น
สุดท้าย รายงานสรุปว่า การประชุม FOMC ครั้งนี้จะเป็น ‘จุดเปลี่ยนนโยบายที่สำคัญ’ หากเฟดเลือกใช้นโยบายผ่อนคลายต่อเนื่อง ก็อาจเป็นแรงส่งให้บิตคอยน์และสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆ ปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่หากยังชะลอความเร็วในการลดดอกเบี้ย ก็อาจเพิ่มความไม่แน่นอนในระยะสั้นได้ ตลาดจึงเตรียมวางแผนรับมือสภาพคล่องใหม่หลังช่วงปลายปีต่อเนื่องถึงต้นปีหน้า
ความคิดเห็น 0