Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

SEC ออกหนังสือ No-action หนุน DTC เดินหน้าบล็อกเชนโทเค็นสินทรัพย์จริง เตรียมเปิดบริการปี 2026

SEC ออกหนังสือ No-action หนุน DTC เดินหน้าบล็อกเชนโทเค็นสินทรัพย์จริง เตรียมเปิดบริการปี 2026 / Tokenpost

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ(SEC) ได้ออกหนังสือ ‘ไม่ดำเนินการ’ (No-action letter) ให้แก่บริษัท Depository Trust Company (DTC) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัทศูนย์รับฝากและชำระบัญชี(DTCC) ในสหรัฐ เมื่อวันที่ 11 (เวลาท้องถิ่น) ถือเป็นสัญญาณสำคัญที่อาจนำไปสู่การให้บริการ *การแปลงสินทรัพย์เป็นโทเค็น(tokenization)* อย่างเป็นทางการในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ

ตามที่ DTCC ระบุ DTC เตรียมเปิดให้บริการแปลง *สินทรัพย์ในโลกจริง(RWA)* เช่น หุ้นในดัชนีรัสเซล 1000, กองทุน ETF ชั้นนำ และพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (ทั้งระยะสั้น กลาง และยาว) ให้เป็นโทเค็นบนบล็อกเชน โดยจะเปิดให้ใช้งานแบบจำกัดในกลุ่มสมาชิก DTC และลูกค้าภายในระยะเวลา 3 ปี ผ่านเครือข่ายบล็อกเชนที่ได้รับอนุมัติ โดยมีแผนเริ่มให้บริการอย่างเป็นทางการในช่วงครึ่งหลังของปี 2026

‘No-action letter’ ที่ SEC ออกให้ เป็นการรับรองอย่างไม่เป็นทางการว่า บริการดังกล่าวจะไม่ถือเป็นการละเมิดกฎระเบียบ หากดำเนินการตามรูปแบบที่นำเสนอไว้ SEC มักออกหนังสือนี้เฉพาะในกรณีที่มีหลักฐานเพียงพอว่าบริการหรือผลิตภัณฑ์ไม่ขัดต่อกฎหมายหลักทรัพย์ที่มีอยู่

DTCC ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักของระบบตลาดทุนอเมริกา โดยรับหน้าที่จัดการกระบวนการซื้อขาย เคลียร์ริ่ง และชำระบัญชี การที่องค์กรดังกล่าวเข้าสู่ภาคสินทรัพย์ดิจิทัลจึงถูกมองว่าเป็น ‘จุดเปลี่ยน’ ที่อาจนำระบบการเงินดั้งเดิม (TradFi) มาบรรจบกับการเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi) อย่างเป็นรูปธรรม

แฟรงก์ ลาซาลา(Frank La Salla) ซีอีโอของ DTCC กล่าวว่า เทคโนโลยีดังกล่าวจะเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ เช่น *การเข้าถึงตลาดตลอด 24 ชั่วโมง*, *การนำสินทรัพย์ค้ำประกันมาใช้ได้ดีกว่าเดิม*, และ *การสร้างสินทรัพย์แบบตั้งโปรแกรมได้ (Programmable Assets)* พร้อมแสดงความขอบคุณต่อ SEC สำหรับการสนับสนุนครั้งนี้

DTC เน้นว่าสิ่งที่บริษัทดำเนินการไม่ใช่แค่การทำ ‘สำเนาดิจิทัล’ ของหลักทรัพย์แบบเดิม เพราะโทเค็นที่ออกมาจะให้ *สิทธิ ความคุ้มครอง และความเป็นเจ้าของ* เทียบเท่าระบบการลงทุนที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ความสามารถดังกล่าวจะช่วยให้การควบคุมทางกฎหมายยังคงมีผลอยู่แม้จะดำเนินการบนบล็อกเชน

แม้ปกติ SEC ไม่ค่อยออก No-action letter บ่อยนัก แต่ปัจจุบันภายใต้การนำของประธานคณะกรรมาธิการอย่างพอล แอทกินส์(Paul Atkins) ผู้ซึ่งเคยแสดงการสนับสนุนภาคสินทรัพย์ดิจิทัล ก็เริ่มมีท่าทีเปิดกว้างมากขึ้นต่อโครงการ DeFi และการแปลงสินทรัพย์ โดยแอทกินส์เคยอธิบายชัดเจนว่า โทเค็นและคริปโตควรดำเนินการอย่างไรภายใต้กรอบของ SEC

การตัดสินใจล่าสุดนี้เกิดขึ้นท่ามกลางกระแสที่ธนาคารขนาดใหญ่อย่าง เจพีมอร์แกน และโกลด์แมน แซคส์ เริ่มเร่งเครื่องขยายบริการด้านโทเค็น โดยใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนเป็นแกนกลาง ซึ่งอาจส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ทางการเงินดิจิทัลได้รับการยอมรับในระดับสถาบันและเข้าสู่ระบบการเงินตามกฎหมายอย่างรวดเร็วขึ้นในอนาคต

*ความคิดเห็น*: หากโครงสร้างพื้นฐานด้านบล็อกเชนที่ได้รับอนุมัติเริ่มเปิดใช้งานได้จริง นักลงทุนอาจเริ่มพิจารณาทบทวนการจัดสรรพอร์ต โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับ RWA และแพลตฟอร์มโครงสร้างพื้นฐานที่สามารถเชื่อมต่อกับภาคการเงินแบบดั้งเดิมได้อย่างราบรื่น

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1