ราคาของอีเธอเรียม(ETH) กำลังฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง เมื่อเทียบกับตลาดคริปโตโดยรวม โดยปัจจัยที่ช่วยขับเคลื่อนการขึ้นของราคาในรอบนี้ ได้แก่ ความคาดหวังต่อการอัปเกรด ‘เปคทรา(Pectra)’, กระแสเงินไหลเข้าของ ETF และการฟื้นตัวทางเทคนิค
เมื่อวันที่ 6 อีเธอเรียมปรับตัวขึ้น 4% ทะลุระดับ 2,800 ดอลลาร์ ขณะที่มูลค่าตลาดรวมของคริปโตเพิ่มขึ้นเพียง 0.65% แตะ 3.23 ล้านล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 4,693 ล้านล้านวอน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของ ETH เมื่อเทียบกับสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ
หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่หนุนราคาคือการอัปเกรด ‘เปคทรา’ ซึ่งคาดว่าจะเปิดใช้งานในเดือนมีนาคม 2025 การอัปเกรดครั้งนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเครือข่าย ทั้งในด้านการขยายตัว, ความเร็วในการทำธุรกรรม และการลดค่าธรรมเนียม ทำให้มีการคาดการณ์ว่าจำนวนผู้พัฒนาและผู้ใช้งานในระบบนิเวศของอีเธอเรียมจะเพิ่มขึ้น ปัจจุบัน เปคทรากำลังได้รับการทดสอบบนเครือข่ายทดลองอย่างเซโปลเลีย(Sepolia) และโฮเลสกี(Holesky) หากการพัฒนาเป็นไปอย่างราบรื่น อาจส่งผลให้ความต้องการ ETH เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
กระแสเงินทุนที่ไหลเข้าสู่ ETF ของอีเธอเรียมก็เป็นอีกปัจจัยที่สนับสนุนราคา ตามข้อมูลพบว่าในช่วงห้าวันที่ผ่านมา มีเงินไหลเข้าสู่ ETF เหล่านี้ถึง 421.5 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 611 พันล้านวอน ขณะที่ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีพุ่งแตะ 1.1 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1.59 ล้านล้านวอน โดยเฉพาะกองทุน ETHA ของแบล็คร็อก(BlackRock) ซึ่งดึงดูดเงินทุนกว่า 579 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 8.4 แสนล้านวอน ระหว่างวันที่ 21 มกราคม - 5 กุมภาพันธ์ การที่สถาบันการเงินให้ความสนใจมากขึ้น สะท้อนถึงความเชื่อมั่นใน ETH และช่วยสนับสนุนแนวโน้มขาขึ้นของราคา
ในแง่เทคนิค ปัจจุบัน ETH กำลังพยายามฝ่าแนวต้านที่ 3,000 ดอลลาร์ หากสามารถยืนเหนือระดับนี้ได้ อาจหนุนราคาให้ปรับตัวขึ้นอีก 35% สู่ระดับ 4,100 ดอลลาร์ ในทางกลับกัน หากราคากลับลงมาต่ำกว่า 2,700 ดอลลาร์ อาจเกิดแรงเทขายและนำไปสู่การปรับฐานเพิ่มเติมได้
ด้วยปัจจัยทั้งทางเทคนิคและพื้นฐานที่แข็งแกร่ง นักลงทุนต่างจับตามองว่าอีเธอเรียมจะสามารถรักษาโมเมนตัมขาขึ้นนี้ต่อไปได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม การระมัดระวังยังคงเป็นสิ่งจำเป็น เนื่องจากความเป็นไปได้ของการปรับฐานในอนาคต
ความคิดเห็น 0