Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

บิตคอยน์ แบงคอร์ป(BCBC) เตรียมติดตั้ง 200 เอทีเอ็มบิตคอยน์ทั่วเท็กซัสภายในต้นปี 2026

บริษัทบิตคอยน์ แบงคอร์ป(Bitcoin Bancorp) บริษัทที่มีหุ้นซื้อขายในตลาด OTC โดยใช้สัญลักษณ์ ‘BCBC’ เตรียมขยายเครือข่ายตู้เอทีเอ็มบิตคอยน์ในสหรัฐอเมริกา โดยเลือก ‘รัฐเท็กซัส’ เป็นฐานยุทธศาสตร์หลักและมีแผนจะติดตั้งตู้เอทีเอ็มมากถึง 200 เครื่องทั่วทั้งรัฐภายในไตรมาสแรกของปี 2026 การขยับตัวครั้งนี้นับเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่จะช่วยเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานของสินทรัพย์ดิจิทัลในพื้นที่ซึ่งมีตู้เอทีเอ็มคริปโตใช้งานอยู่แล้วกว่า 4,000 เครื่อง

บิตคอยน์ แบงคอร์ป ถือเป็นหนึ่งในสามบริษัทที่มีสถานะเป็นบริษัทจดทะเบียนซึ่งดำเนินธุรกิจเครือข่ายเอทีเอ็มบิตคอยน์ในสหรัฐฯ โดยบริษัทระบุว่า การขยายธุรกิจในรัฐเท็กซัสครั้งนี้ไม่เพียงเป็นการเข้าสู่ตลาดใหม่ แต่ยังเป็นหนึ่งใน ‘แผนยุทธศาสตร์ระยะกลางถึงยาว’ ขององค์กร บริษัทชูจุดแข็งในการถือครองสิทธิบัตรหลักของระบบเอทีเอ็ม และอีริก โนเวเซน กรรมการบริษัท ยังเผยว่า “บริษัทได้วางรากฐานของสัญญาทางธุรกิจที่สามารถเร่งการเติบโตของรายได้ไว้แล้ว” แสดงให้เห็นถึงความพร้อมในการดำเนินการจริง

ตลาดตอบรับเชิงบวกต่อข่าวดังกล่าว โดยราคาหุ้นของบริษัทพุ่งขึ้น 7.83% ในวันประกาศ และปรับตัวขึ้นรวม 29.53% ภายในระยะเวลา 5 วัน สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อแผนการขยายในรัฐเท็กซัสที่มีทั้งระบบโครงสร้างพื้นฐานรองรับอย่างแข็งแกร่งและสภาพแวดล้อมทางกฎหมายที่เอื้อต่อการดำเนินธุรกิจคริปโต

*‘เท็กซัส’ กลายเป็นสมรภูมิสำคัญของเอทีเอ็มคริปโต*

รัฐเท็กซัสนับเป็นพื้นที่ที่มีความหนาแน่นของตู้เอทีเอ็มคริปโตสูงที่สุดในสหรัฐฯ โดยเฉพาะในเมืองใหญ่อย่างฮูสตัน, ดัลลัส, ออสติน และซานอันโตนิโอ มีผู้ให้บริการรายใหญ่อย่าง *อาเธนา บิตคอยน์(Athena Bitcoin)*, *บิตคอยน์ ดีโป(Bitcoin Depot)*, *คอยน์ฮับ(Coinhub)*, *คริปโตเบส(Cryptobase)* และ *ไบต์เฟเดอรัล(Byte Federal)* ที่ครอบคลุมตลาดอยู่แล้ว ความหลากหลายของผู้ให้บริการแสดงให้เห็นถึง *ความต้องการที่แท้จริง* และลดข้อจำกัดในการเข้าสู่ตลาดของผู้เล่นใหม่

โจทย์หนึ่งที่ทำให้เท็กซัสน่าสนใจคือ *กรอบกฎหมายที่ชัดเจน* ตามกฎหมายบริการทางการเงินของรัฐ ที่รับรองคริปโตว่าเป็น ‘เงิน’ ส่งผลให้ผู้ให้บริการเอทีเอ็มต้องได้รับใบอนุญาตประเภท ‘ธุรกิจบริการโอนเงิน’ เหมือนกับสถาบันการเงินทั่วไป ซึ่งแม้เงื่อนไขจะเข้ม เช่น ต้องมีสินทรัพย์สุทธิเกิน 500,000 ดอลลาร์ (ราว 7.3 ล้านบาท), ต้องวางเงินประกันอย่างน้อย 150,000 ดอลลาร์ (ราว 2.2 ล้านบาท) และต้องผ่านการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ แต่ *กลับสร้างความเชื่อมั่นต่อทั้งผู้ประกอบการและผู้ใช้งาน*

นอกจากนั้น ยังมีข้อบังคับเพิ่มเติมที่เน้นการ ‘คุ้มครองผู้บริโภค’ เช่น การแจ้งอัตราค่าธรรมเนียม, อัตราแลกเปลี่ยน และวิธีการยื่นคัดค้านการทำธุรกรรมให้ปรากฏอย่างชัดเจนบนตัวเครื่อง ซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยสร้าง *ความโปร่งใส* ให้กับอุตสาหกรรมนี้

*ชายแดนใหม่ของกฎระเบียบระดับประเทศ*

ในขณะที่รัฐเท็กซัสดำเนินตามกฎหมายรัฐอย่างมีระบบ แต่ระดับรัฐบาลกลางกลับเริ่มยกระดับข้อกำหนดให้เข้มงวดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ประกอบการเอทีเอ็มคริปโตในสหรัฐฯ ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายป้องกันการฟอกเงิน (BSA) และขึ้นทะเบียนเป็น ‘ธุรกิจบริการทางการเงิน’ (MSB) ภายใต้การดูแลของ *สำนักงานตรวจสอบอาชญากรรมทางการเงินแห่งสหรัฐฯ(FinCEN)*

การกำกับดังกล่าวนำมาซึ่งข้อบังคับที่เข้มงวด เช่น การจัดตั้งโปรแกรมต่อต้านการฟอกเงิน (AML), การยืนยันตัวตนลูกค้า (KYC), การติดตามธุรกรรม และรายงานการทำธุรกรรมที่เป็นเงินสดมูลค่าเกิน 10,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.4 ล้านบาท) นอกจากนี้ ยังมีข้อกำหนดให้จัดทำรายงานธุรกรรมต้องสงสัย (SAR) และเก็บข้อมูลธุรกรรมทั้งหมดไว้อย่างน้อย 5 ปี ซึ่งเป็นระบบที่มีเป้าหมายเพื่อ *ปิดช่องโหว่ในอุตสาหกรรม*

*มาตรการใหม่เพื่อปิดทาง ‘มิจฉาชีพ’*

กฎหมายฉบับใหม่ที่ชื่อว่า ‘ร่างพระราชบัญญัติป้องกันการฉ้อโกงผ่านเอทีเอ็มคริปโต ปี 2025 (Crypto ATM Fraud Prevention Act of 2025)’ กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาในรัฐสภาสหรัฐฯ โดยขับเคลื่อนผ่านคณะกรรมการธนาคาร ที่อยู่อาศัย และเขตเมือง วัตถุประสงค์หลักคือ ‘เสริมเกราะการคุ้มครองผู้บริโภค’

หากกฎหมายฉบับนี้ผ่าน ผู้ประกอบการจะต้องลงทะเบียนเครื่องทุกเครื่องกับกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ, แสดงค่าธรรมเนียมล่วงหน้า, ห้ามแสดงข้อความทำให้เข้าใจผิดเกี่ยวกับการคืนเงิน, ติดประกาศแจ้งเตือนความเสี่ยงจากการฉ้อโกงอย่างเด่นชัด และต้องออกใบเสร็จรับเงินจริง พร้อมแนบรายละเอียดขั้นตอนการแจ้งเหตุผิดปกติ อีกทั้งยังต้องจัดทำนโยบายต่อต้านการฉ้อโกงในเชิงเอกสารและส่งให้ FinCEN ตรวจสอบโดยตรง

*ความคิดเห็น:* หากร่างกฎหมายนี้มีผลบังคับใช้จริง จะช่วยยกมาตรฐานความโปร่งใสในตลาดเอทีเอ็มคริปโตและเพิ่ม ‘ความปลอดภัยแบบรุกเชิงระบบ’ ให้กับผู้ใช้งาน โดยเฉพาะกลุ่มที่ยังไม่คุ้นเคยกับสินค้าและบริการด้านคริปโตอย่างลึกซึ้ง

*คำสำคัญ:* บิตคอยน์(BTC), บิตคอยน์ แบงคอร์ป, เอทีเอ็มคริปโต, เท็กซัส, FinCEN, การฟอกเงิน, กฎหมายป้องกันการฉ้อโกง, กรอบกฎหมายคริปโต สหรัฐฯ

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1