ไมเคิล เซย์เลอร์(Michael Saylor) ผู้ก่อตั้งและประธานบริหารของบริษัท สแตรทิจี(Strategy) ได้สะสม *บิตคอยน์(BTC)* ในระดับที่สูงมากจนยากที่บริษัทจดทะเบียนรายอื่นจะสามารถไล่ตามได้ นี่คือมุมมองจากนักลงทุนชื่อดังและผู้สนับสนุนบิตคอยน์ แอนโทนี พอมเพลียโน(Anthony Pompliano) ที่กล่าวไว้ในพอดแคสต์ของเขาในชื่อ ‘Pomp Podcast’ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
พอมเพลียโนกล่าวว่า “แม้จะไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แต่ดูแล้วโอกาสที่บริษัทอื่นจะตาม สแตรทิจี ให้ทันนั้นต่ำมาก” พร้อมชี้ให้เห็นว่า สแตรทิจียังคงเดินหน้าซื้อสะสมบิตคอยน์ต่อเนื่องในปีนี้อย่างไม่หยุดยั้ง
จากข้อมูลของ Saylor Tracker เว็บไซต์ที่ติดตามปริมาณการถือครองบิตคอยน์ของสแตรทิจีแบบเรียลไทม์ ระบุว่า ปัจจุบันบริษัทถือครอง *บิตคอยน์* อยู่ที่ 671,268 เหรียญ หรือประมาณ 3.2% ของอุปทานทั้งหมดซึ่งมีจำนวน 21 ล้านเหรียญ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 58,610 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 86.7 ล้านล้านวอน (*ความคิดเห็น*: ปริมาณการถือครองในระดับนี้สามารถมีอิทธิพลต่อตลาดได้อย่างมาก)
พอมเพลียโนยังชี้ว่า “แม้ 3.2% จะดูมาก แต่ก็ยังไม่ถึง 10%” โดยมองว่าบริษัททั่วไปยากที่จะนำเงินทุนมาไล่ตามสแตรทิจีได้ เพราะบริษัทได้สร้าง ‘กำแพงขวางทาง’ หรือความได้เปรียบด้านต้นทุนและเวลาไปแล้ว
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา สแตรทิจีเพิ่งเปิดเผยว่าได้เพิ่มการถือครองบิตคอยน์อีก 10,645 เหรียญ รวมวงเงินซื้อขายกว่า 980.3 ล้านดอลลาร์ โดยเฉลี่ยที่เหรียญละ 92,098 ดอลลาร์ หรือราว 136.24 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นจำนวนที่มากและราคาสูงเมื่อเทียบกับอดีต
พอมเพลียโนได้ย้อนเล่าถึงการเข้าซื้อ *บิตคอยน์* ครั้งแรกของสแตรทิจีเมื่อปี 2020 ซึ่งขณะนั้นราคาซื้อเฉลี่ยอยู่ที่เพียง 9,000–10,000 ดอลลาร์ โดยมูลค่าซื้อครั้งแรกอยู่ที่ประมาณ 500 ล้านดอลลาร์ เขากล่าวว่า “ถ้าบริษัททั่วไปไม่ได้เริ่มในช่วงเวลานั้นและไม่มีเงินทุนขนาดเดียวกัน ก็แทบเป็นไปไม่ได้ที่จะก้าวขึ้นมาอยู่ในระดับเดียวกับสแตรทิจีได้”
ในบทสรุป พอมเพลียโนเน้นว่า การลงทุนเชิงรุกตั้งแต่ระยะเริ่มต้นและความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าคือสิ่งที่ทำให้สแตรทิจียืนเหนือคู่แข่งได้ และแม้จะมีผู้เข้ามาแข่งขันเพิ่มขึ้นในอนาคต แต่โอกาสที่บริษัทอื่นจะแซงหน้าสแตรทิจีในแง่ของจำนวนการถือครองยังคงน้อยมากในระยะเวลานี้
*คำสำคัญ*: บิตคอยน์, สแตรทิจี, แอนโทนี พอมเพลียโน, ไมเคิล เซย์เลอร์, การถือครองสินทรัพย์ดิจิทัล
ความคิดเห็น 0