ยูนิสวอป(UNI) ผ่านการลงมติครั้งสำคัญจากชุมชนเพื่อเปิดใช้งาน ‘ฟีสวิตช์ (Fee Switch)’ ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงโครงสร้างรายได้ครั้งใหญ่ของโปรโตคอล พร้อมกับเตรียม ‘เผา’ โทเคน UNI จำนวน 100 ล้านเหรียญ การลงคะแนนซึ่งเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 20 และสิ้นสุดในวันคริสต์มาสได้รับเสียงสนับสนุนกว่า 69 ล้านเสียง เหนือกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำที่ 40 ล้านอย่างมาก โดยมีเพียง 740 เสียงที่คัดค้าน
ข้อเสนอภายใต้ชื่อ ‘UNIfication’ นี้จะนำค่าธรรมเนียมจากธุรกรรมบนยูนิสวอปเวอร์ชัน 2 และ 3 มาใช้ในการ ‘ลดอุปทาน’ โดยการเผาโทเคน ทำให้มูลค่าของ UNI มีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รายได้ในรูปแบบใหม่นี้คาดว่าจะสร้างเงินมากถึง 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี หรือราว 7,400 ล้านบาท — เป็นจุดเริ่มต้นของการเชื่อมต่อรายได้ของโปรโตคอลเข้ากับโทเคนของชุมชนโดยตรงเป็นครั้งแรก
ผู้ใช้ที่ร่วมลงคะแนนระดับกว่า 6,000 ราย地址 รวมถึงผู้มีบทบาทสำคัญในวงการ เช่น เจสซี วอลดรอน ผู้ก่อตั้ง Variant, เคน วอร์วิก แห่ง Synthetix และอดีตวิศวกรยูนิสวอป เอียน ลาพาม ต่างจัดการลงคะแนนด้วยตัวเอง ยูนิสวอปลาบส์ ซีอีโอ เฮย์เดน อดัมส์ ระบุว่า หลังจากช่วงเวลาไทม์ล็อก 2 วันหลังปิดโหวต ข้อเสนอจะเข้าสู่กระบวนการใช้งานทันที
ข้อเสนอยังมาพร้อมระบบประมูลส่วนลดค่าธรรมเนียมแบบใหม่ ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้แข่งขันกันเพื่อรับราคาค่าธรรมเนียมที่ดีขึ้น ขณะที่ผู้ให้สภาพคล่อง(LP) ได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น นอกจากนี้ โครงสร้างกฎหมายของยูนิสวอปยังถูกปรับให้เข้าสู่กรอบ ‘DUNA’ ของรัฐไวโอมิง สหรัฐฯ ทำให้การบริหารแบบ DAO มีความมั่นคงทางกฎหมายมากยิ่งขึ้น
อีกหนึ่งประเด็นที่ทำให้ตลาดตอบสนองทันที คือ UNI กลับมาเป็นที่จับตาในฐานะสินทรัพย์ที่อาจมีการ ‘รีเทิร์น’ ในปีนี้ โดยราคาขยับขึ้น 25% สู่ระดับ 6.08 ดอลลาร์ในช่วงเปิดโหวต และเคยพุ่งทะลุ 9.70 ดอลลาร์ ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาด้วย ความคิดเห็นจากนักวิเคราะห์เทคนิคระบุว่า UNI ได้ฟื้นตัวจากแนวรับระยะยาว และยังคงมีแรงซื้อต่อเนื่อง หากไม่มีแรงขายกดดัน มีโอกาสเห็นราคาแตะระดับ ‘10 ดอลลาร์’ ได้อีกครั้งในระยะสั้น
หนึ่งในข้อวิจารณ์ตลอดมาคือ UNI ไม่สามารถมอบผลตอบแทนทางตรงให้แก่ผู้ถือ แม้จะเป็นโทเคนของ DEX อันดับหนึ่งของโลก ทิศทางใหม่นี้จึงถือเป็นการตอบโต้คำถามว่า “ทำไมถึงต้องถือ UNI?” ด้วย ‘คำตอบที่มีรายได้’
‘ความคิดเห็น’: กลไกการเผาโทเคนในครั้งนี้ทำให้เห็นความตั้งใจของทีมงานในการยกระดับประสิทธิภาพเชิงเศรษฐกิจของโปรโตคอลอย่างแท้จริง และอาจเป็นโมเดลต้นแบบให้กับโปรโตคอลดีไฟตัวอื่นๆ ได้เดินรอยตามต่อไป
ความคิดเห็น 0