Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

HashKey Capital ระดมทุน 250 ล้านดอลลาร์รอบแรกกองทุนคริปโตใหม่ ท่ามกลางตลาดผันผวน

HashKey Capital ระดมทุนได้สำเร็จ 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐในการปิดรอบแรกของกองทุนคริปโตตัวใหม่ แม้ตลาดในภาพรวมยังเผชิญความผันผวนและสภาพคล่องที่ลดลง โดยกองทุนใหม่ซึ่งมีชื่อว่า ‘HashKey Fintech Multi-Strategy Fund IV’ มีเป้าหมายระดมทุนทั้งหมด 500 ล้านดอลลาร์ และสามารถระดมได้ครึ่งหนึ่งแล้วตั้งแต่รอบแรก ตามแถลงการณ์เมื่อวันที่ 24 จากบริษัท

HashKey Capital ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดของผู้ลงทุนในรอบนี้ แต่ระบุว่าเป็นการลงทุนจากสถาบันระดับโลก สำนักงานครอบครัว และนักลงทุนรายใหญ่หลายราย การระดมทุนครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ผู้ให้บริการสภาพคล่องระยะสั้นเริ่มถอนตัวออกจากตลาดคริปโต ส่งผลให้สถาบันต้องเป็นกลุ่มที่แสดงความมั่นใจผ่านเงินลงทุนระยะยาว

กองทุนใหม่นี้จะใช้กลยุทธ์แบบ ‘มัลติสตราทีจี้’ (Multi-Strategy) มุ่งเน้นการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ด้านการขยายขนาด และการประยุกต์ใช้งานจริงในวงกว้าง โดย เต็ง เจา (Deng Chao) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ HashKey Capital ระบุว่า “ด้วยเงินทุนใหม่ 250 ล้านดอลลาร์ เราอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดในการคว้าโอกาสจากการเติบโตมหาศาลในตลาดเกิดใหม่ ซึ่งภูมิภาคเหล่านี้คือสนามทดลองจริงของนวัตกรรมบล็อกเชน และกองทุนนี้จะเป็นพลังขับเคลื่อนให้เกิดการขยายตัวในระดับโลก”

ตลอดระยะเวลาตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2018 HashKey Capital ได้กลายเป็นหนึ่งในนักลงทุนสถาบันที่มีบทบาทมากที่สุดในเอเชีย โดยบริหารทรัพย์สินรวมมูลค่ากว่า 1 พันล้านดอลลาร์ และได้ลงทุนในโครงการกว่า 400 โครงการทั่วโลก โดยกองทุนแรกของบริษัทมีอัตราส่วน Distributed-to-Paid-In (DPI) สูงกว่า 10 เท่าจากทุนเริ่มต้น

ปัจจุบันสำนักงานใหญ่ของ HashKey Capital ตั้งอยู่ที่สิงคโปร์ และมีการดำเนินงานอยู่ในฮ่องกงและญี่ปุ่น บริษัทแม่คือ HashKey จากฮ่องกง ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มแรกที่ได้รับใบอนุญาตการดำเนินงานตลาดซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล และมีส่วนร่วมในการเปิดตัวกองทุน ETF แบบ Spot ของบิตคอยน์(BTC) และอีเธอเรียม(ETH) แห่งแรกของฮ่องกง

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา HashKey ได้เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (HKEX) หลังการระดมทุน IPO มูลค่า 206 ล้านดอลลาร์ โดยราคาหุ้นของ HashKey ขยับขึ้น 4% ในวันนี้

ทั้งนี้ รายงานจาก 10x Research เมื่อวันที่ 23 ผ่านแพลตฟอร์ม X เผยว่า มีเทรดเดอร์และมาร์เก็ตเมกเกอร์จำนวนมากที่เริ่มถอนตัวจากตลาด นับตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดเหตุการณ์ล้างพอร์ตครั้งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์คริปโต นอกจากนี้ Glassnode ยังชี้ว่า การไหลออกต่อเนื่องจาก ETF ของบิตคอยน์และอีเธอเรียมเป็นสัญญาณของ ‘การลดบทบาท’ ของนักลงทุนสถาบันในตลาด โดยนับตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายน ค่าเฉลี่ย 30 วันของกระแสเงินสุทธิที่ไหลเข้ากองทุน Spot ETF ในสหรัฐฯ ได้ปรับตัวติดลบ ซึ่งสะท้อนถึงแนวโน้มที่นักลงทุนรายใหญ่เริ่มลดความเสี่ยงท่ามกลางสภาพคล่องที่ตึงตัวในตลาดคริปโตขณะนี้

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1