Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

บิตคอยน์(BTC)ผันผวน นักลงทุนจับตาวิสัยทัศน์เศรษฐกิจสหรัฐหลังอีลอน มัสก์คาด GDP โตเลขสองหลัก

นักลงทุนบิตคอยน์(BTC)เริ่มจับตาสัญญาณเศรษฐกิจมหภาคใหม่อย่างใกล้ชิด หลังจากอีลอน มัสก์(Elon Musk) แสดงความเห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจเข้าสู่ช่วงการเติบโตแบบ ‘ระเบิด’ ในเวลาอันใกล้ บรรยากาศการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงจึงเริ่มกลับมาฟื้นตัว แม้ว่าราคาบิตคอยน์จะร่วงลงจากจุดสูงสุดในเดือนตุลาคม แต่กระแสคาดการณ์การลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ และการฟื้นตัวของหุ้นเทคโนโลยี กลับเพิ่มแนวโน้มการรีบาวด์ของตลาดอีกครั้ง

มัสก์โพสต์ข้อความผ่านแพลตฟอร์ม X (ชื่อเดิมคือ Twitter) ระบุว่า GDP สหรัฐอาจเติบโตเป็นเลขสองหลักในช่วง 12–18 เดือนนี้ และหากปัญญาประดิษฐ์ (AI) สามารถประยุกต์ใช้กับภาคเศรษฐกิจจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเติบโตถึงระดับเลขสามหลักในช่วง 5 ปีข้างหน้าก็มีความเป็นไปได้ แม้เขาจะไม่ได้ระบุตัวเลขเป้าหมายอย่างชัดเจน แต่แวดวงการลงทุนมองว่าคำกล่าวนี้มีส่วนช่วยฟื้นฟู ‘ความเชื่อมั่น’ ของตลาด

ในอดีต ราคาบิตคอยน์เคลื่อนไหวตามกระแสสภาพคล่องทั่วโลกและทิศทางนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐมาโดยตลอด มีการประเมินว่า ท่าทีล่าสุดของมัสก์อาจช่วยเปลี่ยนมุมมองของนักลงทุน แม้จะยังไม่แสดงผลในตัวเลขเศรษฐกิจที่จับต้องได้ วิสัยทัศน์ของเขาถือว่ามีอิทธิพลพอสมควร

แอนโธนี แพมเพลียโน (Anthony Pompliano) นักลงทุนและผู้สนับสนุนบิตคอยน์ กล่าวว่า “การที่บุคคลที่รวยที่สุดในโลกออกมาคาดการณ์การเติบโตของ GDP สหรัฐในระดับเลขสองหลักอย่างเปิดเผย ถือว่าเป็นเรื่องที่ต้องจับตา” พร้อมระบุว่าสินทรัพย์จำกัดจำนวนอย่างบิตคอยน์จะได้ประโยชน์จากสถานการณ์แบบนี้ ด้านออเรียน ไฟแนนซ์ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มบริการรายได้จากสินทรัพย์จริง ชี้ว่า “คำพยากรณ์ของมัสก์ไม่สามารถมองข้ามได้” แม้จะมีเสียงวิจารณ์อยู่เป็นระยะก็ตาม

อย่างไรก็ตาม ยังมีนักวิเคราะห์ที่มองว่าควรระวังการตีความเกินจริง อาร์เทม รูซาคอฟสกี นักวิเคราะห์จากมาร์เก็ต เปิดเผยว่า “มัสก์เป็นผู้ประกอบการที่ยิ่งใหญ่ แต่เขาไม่ได้เป็นนักวิเคราะห์เศรษฐกิจที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะ” พร้อมเตือนว่าควรระวังการคาดการณ์ระยะยาวที่ไม่อิงปัจจัยพื้นฐาน

นักวิเคราะห์ตลาดคริปโตบางราย เช่น บาริคซิส คาดว่าบิตคอยน์อาจเข้าสู่ภาวะตลาดหมีในปี 2026 ขณะที่นักเทรดระดับตำนาน ปีเตอร์ แบรนต์ และยูริเอน ทิมเมอร์ จากฟิเดลิตี้ ต่างคาดการณ์ว่าราคาบิตคอยน์อาจลดลงไปแตะช่วง 60,000 ดอลลาร์

ปัจจุบัน บิตคอยน์ซื้อขายอยู่ที่ระดับประมาณ 87,709 ดอลลาร์ (ราว 1.26 ล้านบาท) ซึ่งลดลงจากจุดสูงสุดในเดือนตุลาคมที่ 125,100 ดอลลาร์ (ราว 1.79 ล้านบาท) ประมาณ 30% นักวิเคราะห์บางรายระบุว่า นักลงทุนสายถือยาว (long-term holders) กำลังลดพอร์ตการถือครองลง ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในปัจจัยที่กดดันการฟื้นตัวของตลาด

ลิน ชาน นักวิเคราะห์การตลาดจาก XSดอตคอม กล่าวว่า “บิตคอยน์ยังคงตอบสนองไวต่อแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงิน มากกว่าเพียงแค่คาดการณ์เรื่องเงินเฟ้อหรือสภาพคล่อง” แม้อัตราเงินเฟ้อสหรัฐหรือ CPI ล่าสุดลดลงเหลือ 2.7% แต่ตลาดยังเชื่อว่าเป็นเรื่องยากที่ธนาคารกลางสหรัฐจะเร่งเข้าสู่รอบการปรับลดดอกเบี้ยแบบจริงจังในเร็ว ๆ นี้

สถาบันวิจัย K33 เปิดเผยในรายงานล่าสุดว่า แรงขายจากสายถือยาวกำลังแตะขีดจำกัดแล้ว และฝั่งอุปทานอาจเริ่มส่งสัญญาณบวกในไม่ช้า

ทิศทางราคาบิตคอยน์ในระยะใกล้ขึ้นอยู่กับว่ามุมมองเชิงบวกของมัสก์ต่อเศรษฐกิจจะกลายเป็นจริงในระดับไหน รวมถึงนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐจะเริ่มหันเหอย่างเด่นชัดหรือไม่ ท่ามกลางกระแส ‘มองบวก’ และ ‘สงวนท่าที’ ที่ดำเนินไปพร้อมกัน ตลาดยังคงรอสัญญาณยืนยันแนวโน้มที่ชัดเจนอยู่ในขณะนี้.

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1