ราคาของบิตคอยน์(BTC)และอีเธอเรียม(ETH)กลับเข้าสู่ช่วงขาลงอีกครั้ง แม้ตลาดสินทรัพย์อื่นจะพุ่งขึ้นรับช่วงปลายปี แต่ตลาดคริปโตกลับพลาดโอกาสในการฉลอง ‘แรลลีซานต้า’ โดยมีแรงขายขนาดใหญ่จากกองทุน ETF เป็นปัจจัยสำคัญที่ฉุดราคาลง
จากข้อมูลล่าสุด พบว่า *แบล็คร็อก* บริษัทจัดการสินทรัพย์ใหญ่ที่สุดในโลก ได้โอนคริปโตครั้งใหญ่ออกจากกระเป๋าไปยังแพลตฟอร์มซื้อขาย โดยเมื่อวันที่ 25 พบว่าบริษัทโอนบิตคอยน์จำนวน 2,292 เหรียญ (ราว 332 ล้านบาท) และอีเธอเรียมอีก 9,976 เหรียญ (ราว 42 ล้านบาท) ไปยังแพลตฟอร์ม *คอยน์เบส* นี่ถือเป็นการเคลื่อนไหวขนาดใหญ่ครั้งที่สองในรอบสัปดาห์ คาดว่าเหรียญดังกล่าวอาจถูกขายทิ้งในตลาด ซึ่งสอดคล้องกับการเคลื่อนไหวเมื่อวันที่ 22 ธันวาคมที่ผ่านมา ที่แบล็คร็อกฝากเหรียญในปริมาณมากเช่นกัน
ไม่เพียงแต่การเคลื่อนไหวของสถาบันขนาดใหญ่เท่านั้น กองทุน ETF สำหรับคริปโตยังประสบกับการไถ่ถอนมหาศาล โดยในสัปดาห์นี้ กองทุน ETF ของบิตคอยน์มีเงินไหลออกสุทธิ 330 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 4,767 ล้านบาท) ขณะที่กองทุนของอีเธอเรียมมีการถอนออกอีก 11 ล้านดอลลาร์ (ราว 159 ล้านบาท) สะท้อนถึงกระแสเงินทุนจากสถาบันที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง
รายงานจาก *คอยน์แชร์ส* ยังระบุเพิ่มเติมว่าในสัปดาห์ก่อน บิตคอยน์ ETF มีเงินไหลออก 460 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 6,651 ล้านบาท) และอีเธอเรียม ETP มีเงินถูกถอนกว่า 555 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 8,026 ล้านบาท) แสดงให้เห็นถึง *ภาวะจิตวิทยาการลงทุนที่กำลังถดถอย* อย่างมีนัยสำคัญ
ปัจจัยเศรษฐกิจมหภาคยังเป็นอีกหนึ่งแรงกดดันหลัก เนื่องจากความคาดหวังว่าสหรัฐจะลดดอกเบี้ยในเดือนมกราคมเริ่มลดน้อยลง หลังตัวเลข GDP และการยื่นขอเบี้ยว่างงานล่าสุดออกมาแข็งแกร่งกว่าคาดการณ์ ทำให้ตลาดประเมินว่า *ธนาคารกลางสหรัฐ(Fed)* อาจคงดอกเบี้ยไว้นานกว่าที่เคยคิดไว้ นักลงทุนจึงเริ่มลดการถือลงทุนใน ‘สินทรัพย์เสี่ยง’ อย่างคริปโต
ด้านข้อมูลออนเชน ล่าสุด *คริปโตควอนต์(CryptoQuant)* เตือนว่าตลาดอาจเข้าสู่ช่วง *ตลาดหมี* โดยใช้ดัชนีร่วมตลาดบิตคอยน์ (BCMI) ในวิเคราะห์ พบว่าราคาในตอนนี้ยังต่ำกว่าจุดสมดุล แม้จะเหนือระดับต่ำสุดในประวัติศาสตร์ก็ตาม ซึ่งหมายความว่า ยังมี ‘โอกาสปรับฐานลงได้อีก’
ณ วันที่ 26 ราคาบิตคอยน์ซื้อขายอยู่ที่ระดับ 87,700 ดอลลาร์ (ประมาณ 1,269.8 ล้านบาท) และยังคงแสดงสัญญาณ *แนวโน้มขาลง* ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา *ความคิดเห็น*: ตลาดคริปโตรับแรงกระแทกจากทั้งด้านเทคนิค เศรษฐกิจ และแรงเทขายจากนักลงทุนสถาบัน หากแนวโน้มนี้ยังดำเนินต่อ นักลงทุนอาจต้องเตรียมพร้อมรับมือกับระยะการปรับฐานที่ยาวนานกว่าที่คาดไว้
ความคิดเห็น 0