Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

ซีอีโอคอยน์เบสชี้ บิตคอยน์(BTC) เสริมแกร่งดอลลาร์ ไม่ใช่ภัยคุกคาม

ไบรอัน อาร์มสตรอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทซื้อขายคริปโตชื่อดัง ‘คอยน์เบส’ ออกมาแสดงความเห็นว่า บิตคอยน์(BTC) ไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อดอลลาร์สหรัฐ แต่กลับมีบทบาทช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับฐานะ ‘เงินสำรองหลักของโลก’ ของสกุลเงินดอลลาร์ พร้อมยกบทบาทของบิตคอยน์ว่าเป็นเสมือนกลไก ‘ถ่วงดุล’ ทางการเงิน ซึ่งสามารถยับยั้งนโยบายการใช้จ่ายที่ไร้ความรับผิดชอบของภาครัฐได้

เมื่อวันที่ 28 อาร์มสตรองได้โพสต์ผ่านบัญชี X (ชื่อเดิมคือทวิตเตอร์) ว่าบิตคอยน์เป็นสินทรัพย์ที่ช่วย ‘เสริมความแข็งแกร่ง’ ให้กับดอลลาร์ โดยเนื้อหาพร้อมเสียงกล่าวสั้นๆ ระบุว่า “บิตคอยน์ดีต่อดอลลาร์สหรัฐ มันสร้างการแข่งขันที่เป็นธรรม ช่วยควบคุมเงินเฟ้อและการใช้จ่ายเกินตัวของรัฐบาล” พร้อมย้ำว่า “คนมักกลัวว่าบิตคอยน์จะทำลายดอลลาร์ แต่ความจริงแล้วมันกลับทำหน้าที่ตรงกันข้ามด้วยซ้ำ”

ซีอีโอของคอยน์เบสยังแสดงความเห็นต่อเนื่องว่า บิตคอยน์ไม่ได้เป็นเพียงตัวเลือกทางการเงินทดแทน แต่ทำหน้าที่เป็นแรงกดดันต่อนักการเมืองและผู้กำหนดนโยบายที่ต้องรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ หากรัฐบาลมีนโยบายที่สร้างภาระขาดดุลงบประมาณหรือทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้น ผู้คนก็สามารถนำทุนไหลเข้าสู่สินทรัพย์ทางเลือกอย่างบิตคอยน์ได้ทันที ซึ่งส่งสัญญาณให้ภาครัฐกลับมาแก้ไขนโยบายให้สมดุล

อาร์มสตรองชี้ว่า กลไกทางการเมืองในประเทศประชาธิปไตยมักไม่มีแรงจูงใจเพียงพอในการควบคุมการใช้จ่ายอย่างรัดกุม ดังนั้นการมีบิตคอยน์ในระบบเศรษฐกิจโลกจึงกลายเป็น ‘แรงกระตุ้นจากภายนอก’ ที่ทำให้ประเทศต่างๆ โดยเฉพาะสหรัฐ จำเป็นต้องมีวินัยทางการคลังมากขึ้น

เขาเตือนว่า หากสหรัฐไม่สามารถรักษาอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจให้เท่าเทียมหรือมากกว่าเงินเฟ้อ ดอลลาร์อาจสูญเสียสถานะสกุลเงินหลักของโลกได้ โดยระบุว่า หากเศรษฐกิจเติบโตที่ระดับ 2–3% ต่อปี ก็ยอมรับได้หากเงินเฟ้ออยู่ในระดับเดียวกัน แต่หากเงินเฟ้อสูงกว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจ ประเทศก็เสี่ยงต่อการสูญเสียความเชื่อมั่นและสถานะจากนานาชาติ

สำหรับมุมมองที่มอง ‘ดอลลาร์’ และ ‘บิตคอยน์’ ว่าเป็นศัตรูกัน อาร์มสตรองไม่เห็นด้วย และเชื่อว่า บิตคอยน์สามารถเป็น ‘เครื่องมือสร้างความมั่นคงระยะยาว’ ให้กับระบบเศรษฐกิจของสหรัฐเช่นกัน เขาเปรียบเปรยว่า “บิตคอยน์ กลายเป็นพลังที่ช่วยให้ ‘การทดลองทางสังคม’ อย่างสหรัฐอเมริกาสามารถยืนหยัดต่อไปได้ยาวนานขึ้น”

นอกจากนี้ เขายังชี้ให้เห็นถึงการแข่งขันระหว่างประเทศในบริบทภูมิรัฐศาสตร์ พร้อมเตือนว่าประเทศคู่แข่งอย่างจีนกำลังเล็งที่จะโค่นอำนาจการเงินของสหรัฐ ด้วยการผลักดันเงินหยวนขึ้นมาแข่งขัน และย้ำว่า ‘ความเชื่อมั่นในสกุลเงิน’ จะกลายเป็นกุญแจสำคัญในสงครามทางเศรษฐกิจระยะยาว

กระแสความขัดแย้งระหว่าง ‘คริปโต’ กับ ‘การเงินแบบดั้งเดิม’ กำลังเริ่มเปลี่ยนทิศทาง โดยเฉพาะเมื่อบิตคอยน์เริ่มเข้าสู่ระบบการเงินกระแสหลักผ่าน ETF และการยอมรับจากสถาบันต่างๆ อาร์มสตรองจึงมองว่าบิตคอยน์สามารถดำรงอยู่ร่วมกับดอลลาร์ได้ ไม่ใช่ในฐานะศัตรู แต่เป็นพาร์ตเนอร์ที่ช่วยทำให้ระบบการเงินโลกแข็งแรงขึ้น เขาย้ำว่าบิตคอยน์คือ ‘เครื่องมือจูงใจ’ และ ‘กลไกลงโทษ’ ทางอ้อมที่จะส่งสัญญาณที่ชัดเจนต่อนักกำหนดนโยบายและนักลงทุนว่า ‘เสถียรภาพ’ คือต้นทุนสำคัญของการบริหารเศรษฐกิจในระยะยาว

ณ เวลาที่มีการรายงานข่าว บิตคอยน์(BTC) มีราคาอยู่ที่ 87,604 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1,259.4 ล้านบาท

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1