เทเลแกรมปรับโครงสร้าง ‘TON บล็อกเชน’ สำหรับวอลเล็ตคริปโต กังวลเรื่องการกระจายอำนาจ
เทเลแกรมกำลังยกเครื่องระบบวอลเล็ตคริปโตโดยให้ ‘TON บล็อกเชน’ เป็นศูนย์กลาง ซึ่งทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการกระจายอำนาจในระบบ นอกจากนี้ มูลนิธิ TON บล็อกเชนยังระบุว่า วอลเล็ตของบุคคลที่สามทั้งหมดในเทเลแกรมจะต้องใช้ ‘TON Connect’ โดยบังคับ
จากประกาศของมูลนิธิ วอลเล็ตและมินิแอปที่ใช้งานอยู่ในเทเลแกรมจะต้องเปลี่ยนมาใช้ TON บล็อกเชนภายในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ซึ่งรวมถึงการโอนสมาร์ทคอนแทรคต์และการบริดจ์สินทรัพย์ อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงนี้จะไม่มีผลกระทบต่อบริการ ‘Wallet in Telegram’ ที่ใช้งานอยู่ในระบบแชต มูลนิธิ TON บล็อกเชนยืนยันว่า วอลเล็ตที่ใช้พื้นฐานของ TON จะยังสามารถเข้าถึงแอปกระจายศูนย์ได้เหมือนเดิมผ่าน TON Connect และหากวอลเล็ตของบุคคลที่สามไม่ปรับตัวภายในระยะเวลาที่กำหนด อาจถูกตัดออกจากระบบ
**ไมโครสแตรทจีเปลี่ยนชื่อเป็น ‘สแตรทจี’ หลังขาดทุนกว่า 6.7 แสนล้านบาท**
ไมโครสแตรทจีได้ประกาศเปลี่ยนชื่อเป็น ‘สแตรทจี(Strategy)’ ท่ามกลางผลประกอบการที่ขาดทุนอย่างหนัก โดยในไตรมาสที่ 4 ของปีที่ผ่านมา บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 670 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 9.7 แสนล้านบาท)
จากรายงานที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ รายได้ของสแตรทจีในไตรมาสที่ 4 อยู่ที่ 120.7 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.75 แสนล้านบาท) ลดลง 3% เมื่อเทียบกับปีก่อน และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ราว 2 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.9 พันล้านบาท) อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายของบริษัทกลับพุ่งขึ้นถึง 700% แตะระดับ 1.1 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.59 ล้านล้านบาท) เนื่องจากแผน ‘21/21’ ที่รวมถึงการเข้าซื้อบิตคอยน์เพิ่มเติม
ปัจจุบัน สแตรทจีถือครองบิตคอยน์(BTC) จำนวน 471,107 BTC คิดเป็นมูลค่ากว่า 45,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 6.5 ล้านล้านบาท) ซึ่งเป็นปริมาณบิตคอยน์ที่บริษัทเอกชนถือครองมากที่สุดในโลก
**แบล็คร็อกเดินหน้าสู่ยุโรป เปิดตัวกองทุน Bitcoin ETP**
แบล็คร็อก บริษัทจัดการสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก กำลังก้าวเข้าสู่ตลาดยุโรปด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์กองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยนบิตคอยน์ (ETP)
ตามรายงานของ Bloomberg เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ แบล็คร็อกมีแผนเปิดตัวกองทุน Bitcoin ETP ในสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นการขยายผลิตภัณฑ์ลงทุนจากสหรัฐฯ ไปยังตลาดยุโรป การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นหลังจากความสำเร็จของกองทุน IBIT ETF ในสหรัฐฯ ที่สามารถดึงดูดสินทรัพย์ภายใต้การบริหารได้ถึง 57,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 8.26 ล้านล้านบาท)
ปัจจุบัน แบล็คร็อกบริหารสินทรัพย์ ETP มูลค่า 4.4 ล้านล้านดอลลาร์ (ประมาณ 638 ล้านล้านบาท) ซึ่งทำให้บริษัทเป็นผู้ออกผลิตภัณฑ์ ETP รายใหญ่ที่สุดในโลก กองทุน Bitcoin ETP ใหม่นี้จะเป็นผลิตภัณฑ์ลงทุนในบิตคอยน์ตัวแรกของบริษัทที่เปิดให้บริการนอกอเมริกาเหนือ
ความคิดเห็น 0