บิตคอยน์(BTC) ทะลุ 90,000 ดอลลาร์แต่เผชิญแรงกดดันจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ หลังนโยบายภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุน ETF ลดลง
ตามข้อมูลจากเทรดดิงวิว(TradingView) เมื่อวันที่ 2 บิตคอยน์ดีดตัวแตะ 95,000 ดอลลาร์ ก่อนจะถอยลงมาต่ำกว่า 94,200 ดอลลาร์ และสร้างโมเดล ‘ดับเบิลท็อป’ ซึ่งเป็นสัญญาณขาลง หลังจากนั้นราคาร่วงลงไปที่ระดับ 81,400 ดอลลาร์ และยังคงเคลื่อนไหวอย่างผันผวนรอบแนวรับ 90,000 ดอลลาร์
ไรอัน ลี(Ryan Lee) หัวหน้าฝ่ายวิจัยของบิตเก็ต(Bitget) วิเคราะห์ว่า "กองทุน ETF บิตคอยน์เผชิญกระแสเงินทุนไหลออกจำนวนมาก ซึ่งเพิ่มแรงกดดันในการขาย ขณะที่นักลงทุนสถาบันมีแนวโน้มหลีกเลี่ยงความเสี่ยงเพราะปัจจัยเศรษฐกิจ เช่น นโยบายภาษีศุลกากรของทรัมป์"
ข้อมูลล่าสุดระบุว่า กองทุน ETF บิตคอยน์หลักในสหรัฐฯ มียอดไหลออกสุทธิติดต่อกัน 4 สัปดาห์ โดยเฉพาะในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนกุมภาพันธ์ที่มีเงินทุนออกสูงถึง 2.6 พันล้านดอลลาร์
ขณะเดียวกัน นโยบายภาษีศุลกากรใหม่ของทรัมป์ยังเพิ่มความกังวลต่อตลาด ลีให้ความเห็นว่า "การขึ้นภาษีอาจทำให้แรงกดดันเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนหันไปถือสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคต่อตลาดคริปโตในระยะสั้น"
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังคงมีมุมมองเชิงบวกในระยะยาว โดยมีการคาดการณ์ว่าภายในสิ้นปี 2025 บิตคอยน์อาจพุ่งแตะระดับ 160,000-180,000 ดอลลาร์
นอกจากนี้ ตลาดยังติดตามความเคลื่อนไหวด้านนโยบายการค้าของสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด นักวิเคราะห์จากเน็กโซ(Nexo) อิลิยา คาลเชฟ(Iliya Kalchev) คาดว่า "รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯ อาจประกาศข้อตกลงภาษีศุลกากรฉบับใหม่กับแคนาดาและเม็กซิโกในสัปดาห์หน้า ซึ่งอาจส่งผลดีต่อตลาดคริปโตและสินทรัพย์เสี่ยง"
ปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งคือแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) โดยผู้เชี่ยวชาญมองว่า "หากเฟดดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงิน ตลาดคริปโตอาจมีโอกาสฟื้นตัว" ซึ่งเป็นประเด็นที่นักลงทุนควรจับตา
ความคิดเห็น 0