รัฐบาลสหรัฐฯ วางแผนสะสมทุนสำรองด้วยบิตคอยน์(BTC) แต่แนวทางที่เลือกกลับไม่ได้เป็นไปตามคาดการณ์ของตลาด ทำให้แรงผลักดันในการปรับตัวขึ้นของบิตคอยน์อาจถูกจำกัด ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งบริหารเมื่อวันที่ 7 ซึ่งกำหนดให้รัฐบาลใช้บิตคอยน์ที่ถูกยึดจากกรณีอาชญากรรมในการสร้างกองทุนสำรอง แทนที่จะเป็นการซื้อเพิ่มโดยตรง
หลังการประกาศ บิตคอยน์ร่วงลงกว่า 6% จาก 90,400 ดอลลาร์ สู่ 84,979 ดอลลาร์ สร้างความผิดหวังให้กับตลาด นักวิเคราะห์จากบิตฟิเนกซ์(Bitfinex)ระบุว่า "การที่รัฐบาลไม่ได้เข้าซื้อโดยตรงส่งผลให้เกิดแรงขายและเพิ่มโอกาสในการเคลื่อนไหวแบบไซด์เวย์ในระยะสั้น"
อย่างไรก็ตาม บางฝ่ายมองว่านี่เป็น 'ก้าวแรก' ในการบูรณาการบิตคอยน์เข้าสู่ระบบการเงินโลก โจ เบอร์เน็ตต์ หัวหน้าฝ่ายวิจัยตลาดของอันเชน(Unchained) วิเคราะห์ว่า "สหรัฐฯ กำลังเริ่มยอมรับบิตคอยน์ในฐานะสินทรัพย์หลักของระบบการเงินที่มั่นคงขึ้น"
ความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวโน้มในอนาคตของตลาดบิตคอยน์ยังคงแตกต่างกัน นักวิเคราะห์จากบิตฟิเนกซ์ชี้ว่า "การจัดตั้งกองทุนลงทุนในคริปโตของรัฐบาลยังเป็นไปได้ยาก แนวทางนี้จึงเป็นไปได้มากกว่าและอาจได้รับเสียงต่อต้านน้อยลง"
ขณะนี้ บิตคอยน์ยังคงเคลื่อนตัวในแนวโน้มขาลง โดยในกราฟ 4 ชั่วโมง กำลังก่อตัวเป็นลักษณะ 'สามเหลี่ยมขาลง' นักวิเคราะห์คริปโต ซาโตชิ ฟลิปเปอร์ มองว่า "บิตคอยน์ต้องกลับมายืนเหนือระดับ 93,000 ดอลลาร์เพื่อยืนยันการกลับตัวของแนวโน้ม"
ความคิดเห็น 0