แพลตฟอร์มการเงินไร้ศูนย์กลาง (DeFi) WLFI ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับประธานาธิบดีทรัมป์ ได้ขยายการถือครองอีเธอเรียม(ETH) อย่างมีนัยสำคัญ ก่อนการประชุมสุดยอดคริปโตของทำเนียบขาวในวันที่ 7 ที่จะถึงนี้ โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ปริมาณการถือครองอีเธอเรียมของ WLFI เพิ่มขึ้นถึงสามเท่า
ท่ามกลางความผันผวนของตลาดคริปโต WLFI ใช้กลยุทธ์การซื้อเชิงรุกในช่วงที่ราคาลดลง ตามข้อมูลจาก Arkham Intelligence บริษัทวิเคราะห์บล็อกเชน พบว่า WLFI ได้เข้าซื้ออีเธอเรียมเพิ่มเติมมูลค่ากว่า 10 ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ยังได้สะสมเหรียญแรปต์บิตคอยน์(WBTC) มูลค่า 10 ล้านดอลลาร์ และโทเคนของมูฟเมนต์เน็ตเวิร์ก(MOVE) อีก 1.5 ล้านดอลลาร์
การเคลื่อนไหวของ WLFI เกิดขึ้นในช่วงที่ตลาดคริปโตกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอน โดยเฉพาะหลังจากเหตุการณ์แฮ็กครั้งใหญ่ของไบบิต(Bybit) เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ซึ่งนำไปสู่ความเสียหายมูลค่ากว่า 1.4 พันล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนสั่นคลอน
ในสถานการณ์นี้ โซลานา(SOL) เป็นหนึ่งในสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด โดยมีมูลค่าการไหลออกมากถึง 485 ล้านดอลลาร์ ตามรายงานจาก Binance Research นักลงทุนจำนวนมากหันไปหาสินทรัพย์ที่ปลอดภัยกว่า ท่ามกลางข่าวเกี่ยวกับโครงการหลอกลวงและกรณี Rug Pull ของบรรดาเหรียญมีมบนเครือข่ายโซลานา
ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีทรัมป์เตรียมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดคริปโตของทำเนียบขาวในวันที่ 7 โดยจะรวมตัวบุคคลสำคัญในอุตสาหกรรมคริปโตและผู้กำหนดนโยบายเพื่อหารือเกี่ยวกับกฎระเบียบ การกำกับดูแลสเตเบิลคอยน์ และบทบาทของบิตคอยน์ในระบบการเงินของสหรัฐฯ ด้วยท่าทีของทรัมป์ที่แสดงความสนใจในการพัฒนาอุตสาหกรรมคริปโตในระดับชาติ มีความเป็นไปได้ที่การประชุมนี้อาจกำหนดแนวทางนโยบายสำคัญในอนาคต
ผู้เชี่ยวชาญในแวดวงวิเคราะห์ว่าการซื้ออีเธอเรียมจำนวนมากของ WLFI อาจไม่ได้เป็นเพียงแค่กลยุทธ์การลงทุน แต่ยังอาจสะท้อนถึงทิศทางนโยบายของรัฐบาลทรัมป์ต่อสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งอาจส่งผลกระทบที่สำคัญต่อตลาดคริปโตในภาพรวม
ความคิดเห็น 0