โครงการดิไฟ(DeFi) ‘เวิลด์ ลิเบอร์ตี ไฟแนนเชียล’(World Liberty Financial, WLFI) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากทรัมป์ กำลังเคลื่อนไหวอย่างแข็งขันในตลาดหลังจากเข้าซื้ออีเธอเรียม(ETH) มูลค่า 10 ล้านดอลลาร์ ท่ามกลางแนวโน้มขาลงของตลาดคริปโต กลยุทธ์การลงทุนครั้งนี้ทำให้ WLFI กลายเป็นจุดสนใจของนักลงทุน
จากข้อมูลออนเชน พบว่า WLFI ได้โอนเหรียญ USDC มูลค่า 25 ล้านดอลลาร์ไปยังวอลเล็ตแบบมัลติซิก ก่อนจะนำเงินดังกล่าวมาเข้าซื้อ 4,468 ETH ในราคาเฉลี่ย 2,238 ดอลลาร์ต่อเหรียญ นอกจากนี้ยังเสริมพอร์ตการลงทุนด้วย Bitcoin เวอร์ชันโทเคน (WBTC) จำนวน 110.6 เหรียญ คิดเป็นมูลค่าราว 100,000 ดอลลาร์ และ MOVE โทเคนอีก 3.42 ล้านเหรียญ มูลค่ารวม 1.5 ล้านดอลลาร์
ปัจจุบัน สินทรัพย์หลักที่ WLFI ถือครอง ได้แก่ อีเธอเรียมมูลค่า 16.34 ล้านดอลลาร์, WBTC มูลค่า 14.8 ล้านดอลลาร์ และ USDT มูลค่า 13.25 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม บริษัทกำลังเผชิญกับผลขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง มูลค่าราว 89 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นผลมาจากภาวะตลาดที่ซบเซา รวมถึงเหตุการณ์แฮ็ก Bybit มูลค่า 1.4 พันล้านดอลลาร์ที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน
แม้จะมีความท้าทาย แต่ WLFI ยังคงเดินหน้าสะสมสินทรัพย์ดิจิทัลต่อไป กลยุทธ์เชิงรุกนี้สะท้อนให้เห็นว่าบริษัทให้ความสำคัญกับศักยภาพของตลาดในระยะยาวมากกว่าความผันผวนระยะสั้น นักวิเคราะห์หลายคนมองว่าการเคลื่อนไหวของ WLFI อาจสอดคล้องกับนโยบายที่เป็นมิตรต่อคริปโตของทรัมป์ และอาจส่งผลให้ตลาดคริปโตมีพัฒนาการที่สำคัญในอนาคต
ขณะเดียวกัน WLFI เพิ่งเปิดตัวกองทุนแมโครสตราทีจี (Macro Strategy Fund) เพื่อเน้นการลงทุนในบิตคอยน์ อีเธอเรียม และอัลท์คอยน์บางตัว นอกจากนี้ ยังมีการคาดการณ์ว่าทรัมป์และครอบครัวอาจกำลังเตรียมแผนสำหรับโครงการขนาดใหญ่ที่ใช้เทคโนโลยีของอีเธอเรียม ซึ่งอาจส่งผลต่อการนำบล็อกเชนมาใช้ในระดับรัฐบาลในอนาคต
ความคิดเห็น 0