กระเป๋าเงินบิตคอยน์(BTC) ที่เกี่ยวข้องกับตลาดมืด ซึ่งไม่เคลื่อนไหวมานานถึง 9 ปี ได้กลับมาใช้งานอีกครั้ง
ตามรายงานของแพลตฟอร์มติดตามคริปโต อาร์คัม อินเทลลิเจนซ์(Arkham Intelligence) กระเป๋าเงินที่เกี่ยวข้องกับตลาดมืด ‘นิวเคลียส(Nucleus)’ ได้ถูกปล่อยทิ้งไว้นานเกือบทศวรรษ ก่อนจะมีการโอน BTC มูลค่า 77.5 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,131 พันล้านวอน) ไปยังที่อยู่ใหม่ 3 แห่งเมื่อวันที่ 7 อย่างไรก็ตาม ยังคงมี BTC มูลค่า 365 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 5,325 พันล้านวอน) อยู่ในกระเป๋าหลักของมัน
‘นิวเคลียส’ เป็นตลาดมืดที่ถูกปิดตัวลงในเดือนเมษายน 2016 ซึ่งเคยเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายสินค้าผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นยาเสพติดหรืออาวุธ หลังจากถูกปิด กระเป๋าสำรองที่มี BTC ราว 5,000 เหรียญ (มูลค่าเพียง 2.1 ล้านดอลลาร์ในขณะนั้น) ถูกระงับไว้ มีรายงานว่าการปิดตัวของแพลตฟอร์มนี้เกิดจากการถูกแฮ็ก แต่ก็มีข้อสงสัยว่าอาจเป็น ‘เอกซิทสแกม(exit scam)’ หรือการฉ้อโกงที่เกิดจากผู้ดูแลระบบเอง หรืออาจเกี่ยวข้องกับการจับกุมบุคคลสำคัญของแพลตฟอร์ม
BTC มักถูกใช้ในตลาดมืดเนื่องจากความเป็น ‘นิรนาม’ และความสามารถในการเลี่ยงการตรวจสอบที่สูง ความเคลื่อนไหวของกระเป๋าเงินที่เชื่อมโยงกับนิวเคลียสเกิดขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์ลงนามในคำสั่งบริหาร ‘การกักตุน BTC เชิงกลยุทธ์’ เมื่อวันที่ 6 โดยประกาศว่าสหรัฐฯ จะใช้ BTC ที่ยึดได้เป็นทรัพย์สินสำรองของประเทศ
ในปีนี้ มีการเคลื่อนไหวของกระเป๋า BTC ‘ที่หลับใหลมานาน’ เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน สาเหตุหลักมาจากราคาของ BTC ที่พุ่งสูงขึ้น หลังจาก BTC พุ่งขึ้นตั้งแต่ปี 2023 กระเป๋าที่ไม่เคลื่อนไหวนานถึง 11 ปี และถือ BTC 1,037 เหรียญ กลับมาเคลื่อนไหวในเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว ขณะที่ในเดือนพฤษภาคมปีนี้ กระเป๋าที่อยู่มาตั้งแต่ยุค ‘ซาโตชิ(Satoshi-era)’ สามแห่ง โอน BTC รวม 1,687 เหรียญ ในเดือนมิถุนายน นักลงทุนรายใหญ่ที่ไม่ได้ขยับตัวมานาน 5 ปี ก็ได้ทำธุรกรรม 8,000 BTC ส่วนในเดือนกันยายน บัญชีของนักขุดที่ไม่ได้ใช้งานมา 15 ปี ก็กลับมาเปิดใช้งานอีกครั้ง
วงการคริปโตยังจับตาความก้าวหน้าของ ‘ควอนตัมคอมพิวติ้ง’ ซึ่งอาจเป็นภัยคุกคามต่อความปลอดภัยของกระเป๋า BTC ที่เก่าแก่ ซีอีโอของเทเธอร์(Tether) ‘เปาโล อาร์โดยโน’ เตือนว่า “เนื่องจากความก้าวหน้าของควอนตัมคอมพิวติ้ง BTC ที่เคยถูกมองว่าสูญหาย อาจกลับเข้าสู่ตลาดอีกครั้ง”
ความคิดเห็น 0